นางสาวจิติรัตน์ ฐานุอัครพัฒน์ กรรมการผู้ชี้ขาด ในฐานะหัวหน้าฝ่ายวิชาการสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ซึ่งเคยลงทำหน้าที่ในเกมระดับนานาชาติหลายครั้ง ยอมรับว่า เหตุการณ์ชกต่อยกันระหว่างการแข่งขันของ บดินทร์ อิสระ และมณีพงศ์ จงจิตร เป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งแรกที่เกิดขึ้นในวงการแบดมินตันโลก เพราะที่ผ่านมามีเหตุการณ์รุนแรงที่สุด คือการชกต่อยกันของผู้ฝึกสอนเท่านั้น
เรื่องนี้สหพันธ์แบดมินตันโลก หรือ BWF อาจต้องรอข้อมูลจากกรรมการและผู้ชี้ขาดในเกมดังกล่าว รวมทั้งเทปการแข่งขันทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกรรมการไม่เข้าใจภาษาไทยที่นักกีฬาทั้งคู่ด่าทอและยั่วยุกันตลอดทั้งเกม เพราะตามกติกาแล้ว ห้ามมีการยั่วยุ ทั้งทางวาจา และการกระทำ หากทำผิดกรรมการจะมีการตักเตือนด้วยวาจา รวมทั้งแจกใบเหลือง ใบแดง เพื่อลดดีกรีการยั่วยุที่เกิดขึ้น และหากรุนแรงมากจะถูกให้ใบดำ หรือที่เรียกว่าการดิสควอลิฟาย
สำหรับบดินทร์ และมณีพงศ์ เคยลงเล่นประเภทชายคู่ร่วมกันในการแข่งขันโอลิมปิก 2012 รอบสุดท้าย ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งทั้งคู่สร้างผลงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ
แต่หลังการแข่งขันโอลิมปิกทั้งสองคนก็ประกาศแยกทางกัน ด้วยเหตุผลส่วนตัว ซึ่งท้ายที่สุด บดินทร์ได้ตัดสินใจออกจากการฝึกซ้อมภายใต้การควบคุมของสมาคมแบดมินตัน และย้ายไปอยู่กับสโมสรแกรนนูลาร์
เหตุการณ์ชกต่อยกันของบดินทร์ อิสระ และมณีพงศ์ จงจิตร อดีตคู่หูนักแบดมินตันชายคู่มือ 1 ของไทย ฝ่ายมณีพงศ์ กับ นิพิธพนธ์ ชนะไปก่อนในเกมแรก 21-12 ซึ่งหลังเหตุการณ์ชกต่อย กรรมการผู้ชี้ขาด ตัดสินดิสคลอลิฟายให้คู่ของบดินทร์แพ้ และให้คู่ของมณีพงศ์คว้าแชมป์
