นักเรียนไทยในอียิปต์ขอกลับไทย หลังเกิดเหตุสลายการชุมนุม
ที่ปรึกษาด้านสื่อมวลชนของรัฐบาลรักษาการณ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน หรือจนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังบังคับใช้เคอร์ฟิวในกรุงไคโรและอีก 13 จังหวัด โดยห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา 19.00-06.00 น. ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.2556)
ด้านกระทรวงสาธารณสุขประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ จากการสลายการชุมนุมเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.2556) พบว่าทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิต 278 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 235 คน ที่เหลือ 43 คน เป็นตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีบุตรสาววัย 17 ปีของนายโมฮัมเหม็ด อัล เบลตากุย แกนนำกลุ่มภราดรภาพมุสลิม, ช่างภาพของสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ และผู้สื่อข่าวหญิงของสำนักข่าวกัลฟ์ นิวส์รวมอยู่ด้วย
การใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์นองเลือดที่สุด นับตั้งแต่เกิดการปฏิวัติประชาชนโค่นล้ม อดีตประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารัคเมื่อปี 2554
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้นายโมฮัมเหม็ด เอลบาราเด รักษาการณ์รองประธานาธิบดี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจที่เขาไม่เห็นด้วย
ในขณะที่นานาชาติต่างแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในอียิปต์และประณามรัฐบาลรักษาการณ์ของอียิปต์ที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ได้แก่ สหรัฐฯ,ชาติยุโรป,อิหร่าน,กาตาร์และตุรกี
ทั้งนี้นอกจากในกรุงไคโรแล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มูร์ซี ตามเมืองใหญ่ๆ อย่างเมืองท่าอเล็กซานเดรียและเมืองซูเอซมีการชุมนุมประท้วงเช่นกัน
นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ของคนไทยในกรุงไคโร ว่ายังไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม สถานทูต ณ กรุงไคโร แจ้งเตือนนักเรียน นักศึกษาและประชาชนให้อยู่ในเคหะสถาน และงดการเดินทางออกนอกที่พัก โดยเฉพาะในสถานที่เสี่ยงและสถานที่ชุมนุม พร้อมทั้งประกาศเตือนให้หลีกเลี่ยง 9 จุดในกรุงไคโร
ส่วนนายยะยา เซะ นายกสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร เผยว่าคนไทยและนักเรียนไทยในกรุงไคโรที่มีประมาณ 2,000 คน ยังปลอดภัยดี แต่มีความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากท้องถนนมีทหาร และเจ้าหน้าที่จำนวนมาก และมีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลอียิปต์อาจจะตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะส่งผลให้การติดต่อสื่อสารในเครือข่ายนักเรียนมีความยากลำบากยิ่งขึ้นในการแจ้งเตือนภัยถึงกัน ทำให้นักเรียนไทยส่วนหนึ่งมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย