นายกฯ ชี้สภาปฏิรูป 
ผลการเปิดเวทีระดมความเห็นเพื่อสร้างความปรองดอง ภายใต้หัวข้อ "เดินหน้าปฏิรูปประเทศ พัฒนาประชาธิปไตยและประเทศร่วมกัน" ของรัฐบาลที่ได้ข้อสรุปในการจัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม วานนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงการศึกษา และการวางแนวทาง เพื่อกำหนดเป็นแผนปฏิบัติจะต้องมีทั้งแผนงานระยะเร่งด่วน และระยะยาว โดยเงื่อนไขสำคัญจะต้องมีการใช้กลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเก็บรวบรวมข้อมูลความเห็นในทุกด้าน นายกรัฐมนตรียังคงกล่าวเชิญชวนกลุ่มอื่นๆ ที่จะเข้าร่วมเพิ่มเติมได้ และยังคงเดินหน้าเชิญพรรคประชาธิปัตย์ กับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อเข้าร่วมรับฟังความเห็นที่แตกต่างต่อไป
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ยังคงแถลงย้ำว่า เวทีการระดมความเห็น เพื่อการปฏิรูปของรัฐบาล ยังคงมีเป้าหมายอยู่ที่การแก้รัฐธรรมนูญ และการตรากฎหมายนิรโทษกรรม พร้อมเสนอแนะแนวทางต่อรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ใน 4 ข้อด้วยกัน คือ 1.เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี เข้าประชุมรัฐสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นเวทีในการรับฟังปัญหาของประชาชน 2.นายกรัฐมนตรีไม่ควรปล่อยปละละเลยให้มีการกลั่นแกล้ง คุกคามคนผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง 3.นายกรัฐมนตรี ควรใช้กลไกของรัฐบาลถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม, พ.ร.บ.ปรองดอง และการแก้รัฐธรรมนูญ และ 4.รัฐบาลควรหยุดพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชั่น
ส่วนวิปรัฐบาล โดยนายอำนวย คลังผา ในฐานะประธาน แถลงภายหลังการประชุม ยืนยันว่าจะเดินหน้าพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ค้างอยู่ โดยเบื้องต้นเห็นควรเรียกประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 และ 28 สิงหาคม แต่หากยืดเยื้อต่อเนื่องก็พร้อมจะพิจารณาให้แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า โดยจะต้องพักการประชุมในวันที่ 29 สิงหาคม เพื่อประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่วันเสาร์ และวันอาทิตย์นั้น ส.ส.มีภารกิจลงพื้นที่ติดตามแก้ปัญหาของประชาชน ส่วนร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทนั้น ยังไม่ได้หารือกำหนดวันที่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะพิจารณาได้ในวันที่ 4 และ 5 กันยายน
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้เรียกประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแล้ว ในวันที่ 27 และ 28 สิงหาคม ขณะที่วันที่ 29 สิงหาคมนี้ จะประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้านเห็นตรงกันที่จะประชุมพิจารณากระทู้สด และญัตติด่วน เรื่องราคายางพาราตกต่ำ เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาดูแลประสานแก้ปัญหาให้เกษตรกร