เปิดเล่มว่าที่ กวีซีไรต์ 2556: โลกใบเล็ก

แม้เป็นคนกรุงเทพฯแท้ๆ แต่หลงใหลในวิถีชีวิตชนบทจนขออยู่ที่กาฬสินธุ์ตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ มาวันนี้เด็กหนุ่มผู้มีใจรักธรรมชาติหยิบความประทับใจในหมู่บ้านเล็กๆ ในวัยเด็กมากลั่นกรองเป็นบทกวี เรื่อง โลกใบเล็ก หนังสือเข้ารอบสุดท้ายรางวัลใหญ่ที่สุดของวงการวรรณกรรมไทย

เรียงร้อยวิถีชีวิตในชนบทด้วยกลอนแปด ส่วนหนึ่งในหนังสือรวมบทกวี "โลกใบเล็ก" คือความทรงจำของ พลัง เพียงพิรุฬห์ นามปากกาของ เกริกศิษฏ์ พละมาตร์ นักเขียนหนุ่มที่มีต่อบ้านหนองบัวชุม หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในจ.กาฬสินธุ์ แม้เคยได้อาศัยในวัยเด็กไม่กี่ปี แต่เต็มไปด้วยความผูกพัน เมื่อได้กลับไปอีกครั้ง กวีหนุ่มที่ตอนนี้สร้างครอบครัวอยู่ในจ.ภูเก็ต จึงถ่ายทอด "โลกใบเล็ก" ในใจด้วยชั้นเชิงกาพย์กลอนหลากหลายรูปแบบ  กว่า 1 ปีที่ใช้บทกวีบันทึกภาพความเปลี่ยนแปลงของชุมชนที่รัก เกริกศิษฏ์แบ่งเนื้อหาออกเป็นสี่ตอน "รัก เศร้า เหงา สู้" รวมรสสุขและทุกข์ตามความเป็นไปของชีวิต

ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่แล้วหนังสือเข้ารอบชิงรางวัลซีไรต์จะเป็นโอกาสให้ขายดีมากขึ้น แต่สำหรับเล่มนี้ไม่ได้มีวางขายตามร้านหนังสือทั่วไปเพราะเป็นหนังสือที่พิมพ์เองและขายตามการสั่งซื้อเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นช่องทางหนึ่งของนักเขียนในยุคที่สำนักพิมพ์ใหญ่ มักไม่สนใจพิมพ์งานที่มีผู้อ่านเพียงกลุ่มเล็กๆ

 

 

พิมพ์แค่ 1,000  ด้วยปกแข็งและกระดาษคุณภาพอย่างดี แต่ตั้งราคาต่ำกว่าท้องตลาดถึงเท่าตัว คือความตั้งใจของนักเขียนที่อยากให้รูปเล่มสวยงาม สอดคล้องกับรูปแบบบทกวีที่พูดถึงแง่งามของชีวิต และต้องขายด้วยราคาที่ทุกฐานะสามารถเข้าถึงได้ หากเรื่องราวของผู้คนในหมู่บ้านเล็กๆ กลับได้รับคำแนะนำปากต่อปากให้กับคนในชุมชนจนมีผู้มาติดต่อขอซื้อเกินคาด ความภูมิใจของกวีหนุ่มยิ่งเปี่ยมล้นเมื่อพบว่าหลายคนแทบไม่เคยหยิบหนังสืออ่านในชีวิตประจำวัน แต่เปิดบทกวีโลกใบเล็กอ่านเพราะสนใจและใกล้ชิดในเรื่องราว

เกริกศิษฏ์ พละมาตร์ เริ่มสนใจเขียนหนังสือตั้งแต่ปี 2543 โดยก่อนหน้านี้มีบทกวีตีพิมพ์ในนิตยสารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และสนใจวาดภาพลายเส้น ซึ่งทักษะส่วนหนึ่งได้นำมาใช้ในภาพประกอบของหนังสือรอบชิงกวีซีไรต์เล่มนี้ ผลงานเรื่อง "โลกใบเล็ก" เป็นหนังสือรวมบทกวีลำดับที่ 3 และสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทกวีนิพนธ์ ของเซเว่นบุ๊คส์อวอร์ดปี 2556 แต่จะไปถึงรางวัลซีไรต์ด้วยหรือไม่นั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม