กลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารา จ.นครศรีธรรมราช ปิดถนนเส้นทางเข้าตัวเมือง
ชาวสวนยาง ที่ชุมนุมหน้าที่ว่าการ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้เคลื่อนขบวนไปปิดถนนบริเวณแยกท่าศาลา ขาเข้า จ.นครศรีธรรมราช ตามมติเกษตรกร 14 จังหวัดภาคใต้ โดยให้เหตุผลว่า ที่ประชุม ครม.ไม่มีความจริงใจ ในการแก้ปัญหาผลผลิตตกต่ำ ให้กับคนภาคใต้
ส่วนชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมัน จาก จ.ชุมพร, จ.ระนอง และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ชุมนุมบริเวณศูนย์ราชการ จ.ชุมพร ตลอดทั้งวัน ทยอยเดินทางกลับบ้าน แต่จะมาชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 4 กันยายน ที่บริเวณด้านหน้าวนอุทยานเขาพาง ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ จ.สุราษฎร์ธานี
ขณะที่ท่าอากาศยานกระบี่ ได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัย หลังแกนนำชาวสวนยาง ประกาศว่า อาจเคลื่อนการชุมนุมไปปิดสนามบิน แต่บรรยากาศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนชาวสวนยางภาคตะวันออก นำโดยนายเศรษฐา ปิตุเตชะ สมาชิกสภาจังหวัดระยอง ที่ตั้งเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล และปิดถนนสุขุมวิท หน้าศูนย์ราชการ ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง ประกาศชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ตามมติชาวสวนยาง ภาคใต้ พร้อมเผาโลงศพประท้วงนายกรัฐมนตรี ให้แก้ปัญหาราคายางพารา และค่าครองชีพ ซึ่งนายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปร่วมเวทีปราศรัย โดยอ้างว่า เป็นการให้กำลังใจชาวสวนยาง
ด้านการจราจร หน้าศาลากลางจังหวัดระยอง ฝั่งขาเข้าเมืองไม่สามารถสัญจรได้ ผู้ใช้รถ ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนฝั่งขาออก ด้านตลาดมาบตาพุด
ขณะที่ในภาคเหนือ ที่ จ.อุตรดิตถ์ ไม่มีการชุมนุม แต่ตำรวจยังตั้งด่านดูแลพื้นที่ เช่นเดียวกับภาตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณทางต่างระดับสีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีเพียงแกนนำชาวสวนยาง จ.บึงกาฬ และ จ.ชัยภูมิ ไปสังเกตุการณ์ ก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 กลุ่ม มีมติชะลอเข้าร่วมชุมนุม เพื่อรอดูท่าทีของรัฐบาล โดยบอกว่า หากไม่ได้คำตอบที่พอใจ ก็อาจชุมนุมอีกครั้งกลางเดือนกันยายนนี้