คำเตือนจากรัฐบาลพม่ามีขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศฝ่ายกิจการรัฐสภาของญี่ปุ่นเดินทางเข้าพบหารือกับนางอองซาน ซูจี ที่ทำการพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี ในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งถือเป็นการพบหารือครั้งแรกระหว่างนางซูจีกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2545 โดยสำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า ทั้งคู่หารือในเด็นสิทธิมนุษยชนในพม่า
ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ทางการที่เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาลพม่าพร้อมใจกันรายงานว่า การเดินทางออกจากเมืองย่างกุ้งไปตามจังหวัดต่าง ๆ ของนางซูจีอาจก่อให้เกิดความไม่สงบ แต่รัฐบาลบอกด้วยว่า จะไม่หยุดยั้งความตั้งใจของเธอ ซึ่งนางซูจี ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า คำเตือนนี้ไม่มีผลใด ๆ ต่อแผนที่วางไว้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเริ่มออกเดินทางวันไหน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนางซูจีเคยกล่าวว่า น่าจะเป็นภายในสัปดาห์นี้
โดยการเดินทางแบบเดียวกันนี้เมื่อปีพุทธศักราช 2546 ปรากฏว่า มีฝูงชนมาเฝ้ารอต้อนรับ หรือแม้กระทั่งร่วมติดสอยห้อยตามในขบวนกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แต่ต่อมาได้เกิดเหตุซุ่มโจมตีขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปหลายคน และ แม้นางซูจี จะรอดชีวิตออกมาได้ แต่เธอได้ถูกควบคุมตัวอยู่นานถึง 7 ปี ทั้งนี้ตามรูปการณ์ และ พยานหลักฐานต่าง ๆ ชี้ชัดว่า รัฐบาลทหารในขณะนั้นเป็นผู้จัดการลอบทำร้าย
หนังสือพิมพ์นิวไลต์ออฟเมียนมาร์ยังได้เพ่งความสนใจมาที่พรรคเอ็นแอลดีด้วย ซึ่งขณะนี้ถือเป็นพรรคนอกกฏหมาย แต่ได้ผันบทบาทมาดำเนินกิจกรรมทางสังคม พรรคเอ็นแอลดีโต้แย้งว่าถูกยุบพรรคอย่างไม่ชอบด้วยกฏหมาย แต่ศาลไม่ยอมรับฟ้องคดีเพื่อขอให้มีคำสั่งคืนความเป็นพรรคการเมือง