"โอ๋" ศิริมงคล สิงห์วังชา เจ้าของฉายาเทพบุตรหน้ายก ในวัย 36 ปี ซึ่งถูกจับในคดียาเสพติด 4 ปีที่แล้ว และถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ล่าสุดพ้นโทษออกมาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. โดยศิริมงคลได้รับการอภัยโทษให้เหลือเพียง 5 ปี และได้รับการพักโทษ 1 ปี ทำให้รับโทษเพียง 4 ปีเท่านั้น
ตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำ ศิริมงคลมีพฤติกรรมที่ดี มีหน้าที่ในการฝึกสอนมวยให้กับนักโทษคนอื่น รวมทั้งขึ้นสังเวียนชกมวยสร้างชื่อเสียงอย่างต่อเนื่อง จนได้ตำแหน่งแชมป์ WBC เอเชียคอนติเนนตัล รุ่นเวลเตอร์เวท และกำลังจะขึ้นป้องกันแชมป์อีกครั้งกับ รอนแนล แอสปาราส นักชกชาวฟิลิปปินส์ ในศึกมวยยักษ์ถล่มโลกวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ที่เวทีมวยชั่วคราว 13 เหรียญพระราม 9
ศิรมงคล ถือว่าโชคดีที่มีกีฬามวยเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว และเป็นหนทางทำมาหากินหลังออกจากเรือนจำ แต่เมื่อนึกย้อนอดีตเจ้าตัวยอมรับว่า 4 ปีในเรือนจำ เขาได้รับบทเรียนชีวิต ซึ่งจะไม่ยอมทำผิดอีกครั้งอย่างแน่นอน เพราะมีลูกวัย 5 ขวบที่ต้องดูแล
ศิริมงคลได้รับการสนับสนุนจากทั้งครอบครัว และโปรโมเตอร์ชื่อดัง อย่างนริศ สิงห์วังชา ในการหวนคืนสู่เส้นทางนักชก ซึ่งนริศมีความเชื่อมั่นในพรสวรรค์ของศิริมงคล โดยเฉพาะระเบียบวินัยและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ยอมรับว่าหนทางยังอีกยาวไกลกว่าจะก้าวขึ้นไปชิงแชมป์โลกได้ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องคดีติดตัวทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้าไปแข่งขันในสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นได้
ศิริมงคล เคยเป็นแชมป์โลกแบนตั้มเวต และ ซุปเปอร์ เฟเธอร์เวท ของสภามวยโลก แต่หลังจากเสียตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2546 ชีวิตของเขาตกอับทำให้ต้องตัดสินใจเบนเข็มไปถ่ายภาพนู๊ดจนเป็นที่ฮือฮา ก่อนจะกลับมาชกมวยสากลอาชีพอีกครั้งภายใต้ค่ายเดิม และถูกจับคดียาเสพติด ข้อหาค้ายาไอซ์ จำนวน 28 กรัมในเดือน ส.ค.ในปี 52