ปชป. ชี้ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน จัดลำดับลงทุนผิด
ส.ส.ประชาธิปัตย์ อภิปราย ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ชี้รัฐจัดลำดับการลงทุนผิด-รับฟังความเห็นปชช.น้อย หวั่นกระทบประเทศ หากโครงการไม่สำเร็จ
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท มาตรา 1 โดยระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลนั้นมีการจัดลำดับความสำคัญของให้ลงทุนใหม่ เนื่องจากไม่เห็นด้วยตามที่รัฐบาลระบุว่า ต้องการลดต้นทุนการขนส่งทางบก แทนที่จะลงทุนด้านการศึกษา, สาธารณสุข และคมนาคมตามลำดับ ขณะเดียวกัน ควรจัดลำดับของการลงทุนรถไฟฟ้าความเร็วสูงในโครงการที่คุ้มทุนก่อน เช่น กทม.-ระยอง เนื่องจาก ประชาชนในจ.ชลบุรี และจ.ระยอง มีความสามารถให้การจ่ายค่าโดยสาร เพราะมีประชากรแฝง และมีโรงงานอุตสาหกรรมค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยังไม่ให้ความสำคัญปัญหาการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะมาพร้อมดอกเบี้ยอีก 3 ล้านล้านบาท ในขณะที่รัฐบบาลยังไม่มีความพร้อม ทั้งนี้ ต้องการให้กมธ. พิจารณาการกู้เงินในด้านอื่นด้วย เช่น หากโครงการไม่สำเร็จใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ, กมธ.ต้องสามารถคลายข้อสงสัยของประชาชน และฝ่ายค้านถึงที่มาที่ไป รวมถึงเบื้องหลังของการลงทุนนั้นเป็นอย่างไร ตลอดจนข้อสังสัยของฝ่ายค้าน เพราะเหตุใดรัฐบาลจึงมั่นใจว่า หนี้สาธารณะในครั้งนี้จะไม่สูงเกิน ร้อยละ 50 ของจีดีพี
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หนึ่งในกมธ.เสียงข้างมาก ได้ชี้แจงว่า กมธ.มีหน้าที่พิจารณาตามร่างพ.ร.บ.กู้เงินฯ เท่านั้น จึงไม่มีหน้าที่ในการจัดลำดับการลงทุนว่าต้องลงทุนด้านใดก่อน ตามที่ฝ่ายค้านได้ระบุ ขณะที่ความกังวลเรื่องวินัยทางการคลังนั้น กมธ.ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเช้าให้คำปรึกษาแล้ว ทั้งสำนักงบประมาณ, สำนักบริหารหนี้สาธารณะ
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ในมาตรา 1 ผ่านด้วยมติเห็นด้วย ไม่มีการแก้ไข 288 เสียง, ไม่เห็นด้วยขอสงวนแปรญัตติ 122 เสียง, งดออกเสียง 4 เสียง และไม่ลงคะแนน 4 เสียง ซึ่งมีผู้เข้าประชุมทั้งหมด 426 คน
ขณะที่การอภิปราย มาตรา 2 ของ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินฯ 2 ล้านล้านบาท เริ่มที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการรับรู้ข้อมูลของประชาชนว่าการลงทุนนั้นมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออกแบบอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ต้องการให้รัฐบาลนั้น รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง พร้อมกันนี้ ยังได้ยกตัวอย่างการลงทุนคมนาคมของประเทศออสเตรเลีย ที่ใช้เวลาในการรับฟังความคิดเห็น และดำเนินการนาน 50 ปี ดังนั้น จึงต้องการเห็นประเทศไทยใช้เวลาในการรับฟังความเห็นในมากกว่านี้
