รัฐบาลเชื่อกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ไม่ขัด รธน.
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงระหว่างจัดรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" ถึงการตราร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขึ้นเป็นกรณีเฉพาะ เพื่อแสดงรายละเอียด ของโครงการการลงทุนอย่างชัดเจน และปฏิเสธเลือกแนวทางการร่วมทุน เพราะต้องให้ประโยชน์ตอบแทนกับภาคเอกชนค่อนข้างสูง พร้อมยืนยันว่า ทุกโครงการจะต้องศึกษาอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะระดับหนี้สาธารณะ แม้จะยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการชำระหนี้ แต่ก็คุ้มค่าในการลงทุน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้สร้างอนาคตของประเทศ รวม 53 โครงการ โดยร้อยละ 40 จะลงไปที่ระบบราง และชี้ว่าเป็นการตอบสนองด้านคมนาคมทั้งระบบ ส่วนความโปร่งใสของการดำเนินการ จะมีกรอบของกฎหมายที่ควบคุมไว้ พร้อมยืนยันว่า เนื้อหาของร่างกฎหมายจะไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ตามที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตไว้
ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงยืนยันถึงข้อสังเกตที่ฝ่ายค้านเชื่อว่า รัฐบาลมีเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะเหตุใดหน่วยงานที่รับหน้าที่ตรวจสอบความโปร่งใส ถึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล และแม้จะสนับสนุนให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยกับการตรากฎหมายเฉพาะ เพราะอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงเตรียมยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หลังวุฒิสภาลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้
มีรายงานว่า นอกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ส.ว.กลุ่ม 40 ก็เตรียมยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นกัน โดยคำร้องสอดคล้องกันกรณีการวินิจฉัยว่าขัดมาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับวรรค 3 ในมาตรา 167 อย่างไร โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินกู้นอกงบประมาณ และในวันจันทร์ที่ 23 กันยายนนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะนำเสนอแผนการลงทุนเพื่ออนาคตไทยเข้มแข็ง 2020 เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน ได้พิจารณาเปรียบเทียบว่า แนวทางของรัฐบาลและฝ่ายค้านนั้น แนวทางใดสามารถตอบโจทย์ประเทศได้มากกว่ากัน