นายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้ลงนามส่งหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่มีสมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154(1) ขอส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตราว่าด้วยที่มาของ ส.ว. ขัดหรือแย้ง หรือเป็นไปตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญหรือไม่แล้ว
ขณะที่เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) ฝ่ายกฎหมายของกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ กลุ่ม 40 ส.ว. ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากกลุ่ม 40 ส.ว.กับพวก ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ให้ระงับการทูลเกล้าฯ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เรื่องที่มาของ ส.ว.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งหน้าเตรียมเชิญ นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในมาตรา 154(2) ว่าด้วยให้มีการชะลอการนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม กลุ่มมาตราที่ว่าด้วยที่มาส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของสมาชิกรัฐสภา เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้พิจารณาแล้ว
ขณะที่วันนี้ (4 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดแถลงด้วยวาจาและลงมติในคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของ ส.ส.และ ส.ว. รวม 112 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2557 มาตรา 27 ในส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานศาลปกครอง มาตรา 28 ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ช. ขัดหรือแย้ง หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 168 วรรค 8 วรรค 9 หรือไม่
ด้านนายอุดมเดช รัตนเสถียร ที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2557 ยืนยันว่า รัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติ ได้ดำเนินการถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งในวันนี้ (4 ต.ค.) รัฐบาลก็ไม่ได้เตรียมการอะไร เพราะต้องรอดูว่าศาลจะวินิฉัยออกมาอย่างไร ซึ่งหากศาลวินิฉัยออกมาว่า ผิดรัฐธรรมนูญ ก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เพียงแต่งบลงทุนใหม่ไม่สามารถดำเนินการได้เท่านั้น
ส่วนความคืบหน้า การนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ก็ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนประสานงานของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กับทางสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เพื่อนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวขึ้นทูลเกล้า ทั้งนี้โดยปกติระยะเวลาการประสานงานเพื่อนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้า ต้องใช้เวลา โดยบางครั้งใช้เวลานานถึง 2 - 3 สัปดาห์ ซึ่งยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการตามที่กำหนดไว้ ในรัฐธรรมนูญทั้งในมาตรา 150 และ 151 อยู่แล้ว
