ชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชาเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หลังศาลโลกตัดสิน

หัวหน้าคณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารฝ่ายไทย ลงพื้นที่ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยืนยันว่า จะร่วมหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหากับกัมพูชาอย่างสันติ ไม่ว่าผลตัดสินจะออกมาแบบใด ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่เตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ตามแนวชายแดน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ยังคงปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งในการดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ก่อนมีการตัดสินคดีของศาลโลกในสัปดาห์หน้า

ส่วนการเตรียมความพร้อมของชาวบ้านในพื้นที่ หลายคนยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ แม้จะได้รับคำยืนยันจากฝ่ายความมั่นคงว่า จะมีการพูดคุยกันอย่างสันติระหว่างไทย และกัมพูชา โดยชาวบ้านบางคน เริ่มเตรียมเก็บข้าวของที่จำเป็น เพื่อเตรียมรับสถานการณ์

ส่วนแนวทางคำตัดสินของศาลโลก นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดี คาดการณ์ไว้ 4 แนวทาง คือ
1.ศาลไม่มีอำนาจตีความ หรือหากศาลเห็นว่ามีอำนาจ ก็ไม่จำเป็นต้องตีความ
2.ศาลตัดสินให้ประโยชน์แก่กัมพูชา ซึ่งถือเป็นกรณีเลวร้ายที่สุด
3.ศาลตัดสินให้ประโยชน์แก่ไทย เป็นไปตามเส้นมติคณะรัฐมนตรี ปี 2505 ของไทย
4.ศาลตัดสินออกเป็นกลาง ให้ทั้งสองประเทศไปเจรจาเรื่องเขตแดนกันเอง

ด้าน นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่เดินทางลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้คำยืนยันถึงแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาลว่า จะมีการพูดคุยหารือกับรัฐบาลกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง และใช้สันติวิธีเพื่อป้องกันผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลโลกจะออกมาในรูปแบบใด