<"">
แม้รัฐบาลยืนยันยอมถอยร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และพรรคร่วมรัฐบาลได้ลงสัตยาบันถอนร่างดังกล่าว โดยยืนยันจะไม่นำกลับมาพิจารณาอีกหลังวุฒิสภามีมติยับยั้ง แต่ท่าทีของภาคเอกชนบางส่วนก็ยังไม่เชื่อมั่น โดยเห็นว่ายังมีโอกาสที่สภาผู้แทนราษฎรจะหยิบยกมาพิจารณาใหม่หลัง 180 วัน
การประชุมวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หลังสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบก่อนหน้านี้ หลายฝ่าย ระบุว่า วุฒิสภาจะยับยั้งและส่งร่างดังกล่าวคืนไปยังสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ใน 180 วัน
แต่ภาคเอกชนก็ยังไม่ไว้วางใจ แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะลงสัตยาบันถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯและยืนยันจะไม่เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรนำร่างดังกล่าวไปพิจารณาอีก
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุว่า หากรัฐบาลจริงใจที่จะถอยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในเวลานี้ได้ เพราะประชาชนมีความกังวลว่ารัฐอาจหยิบยกมาพิจารณาใหม่ โดยเสนอว่า รัฐบาลควรปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวไม่ให้ครอบคลุมคดีอาญาและคดีทุจริต เพราะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือในระบอบประชาธิปไตย
ขณะที่นายสมเกียรติ หอมละออ ประธานชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า การลงสัตยาบันเป็นเพียงคำพูดและแสดงท่าทีว่าจะถอยแต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ สิ่งสำคัญต้องดูจากการกระทำของรัฐบาล หากสามารถทำได้จริงก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งภาคเอกชนจะติดตามการพิจารณาของวุฒิสภาก่อนจะกำหนดท่าทีต่อไป