ทันทีที่การประชุมรัฐสภาเริ่มเข้าสู่ระเบียบวาระ อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 เพื่อหารือกรณีการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ตามที่รัฐบาลร้องขอ ส.ส.ฝ่ายค้านได้อภิปรายและเสนอญัตติเลื่อนการอภิปรายออกไป เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่เข้าร่วมรับฟัง แต่ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็เสนอญัตติให้ดำเนินการประชุมต่อ และชี้แจงถึงเหตุที่นายกรัฐมนตรีไม่เข้าร่วมประชุม เนื่องจากติดภารกิจราชการ โดยท้ายสุดที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 304 ต่อ 90 เสียง ให้ดำเนินการประชุมต่อ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวย้ำต่อที่ประชุมถึงการรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการ และย้ำว่าจะขอความเห็นชอบต่อรัฐสภา หลังร่างกรอบการเจรจากับกัมพูชาแล้วเสร็จ
นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร รายงานสรุปสาระคำตัดสินของศาลโลก โดยเฉพาะขอบข่ายอำนาจศาลในการพิจารณาคำขอตีความคำพิพากษาของกัมพูชา และให้กัมพูชามีอำนาจอธิไตยเหนือพื้นที่ยอดเขาพระวิหาร หรือชะง่อนผาตามคำเรียกของสื่อมวลชนและผู้เชี่ยวชาญ และให้ถอนกำลังของไทยออกจากพื้นที่ แต่ศาลไม่วินิจฉัยในเรื่องเขตแดน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ยอมรับผลการตัดสินของศาลโลกบางส่วนที่เป็นคุณกับฝ่ายไทย โดยเฉพาะกรณีที่ยืนยันขอบเขตอำนาจตีความเฉพาะพื้นที่พิพาท แต่ขอให้รัฐบาลชี้แจงและยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่าผลตัดสินของศาลเป็นผลเสียต่อไทย โดยเฉพาะประเด็นปัญหาอธิไตยและเขตแดนบางส่วน
ล่าสุด นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งงดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงบ่ายวันนี้แล้ว เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาได้ใช้สิทธิในการอภิปรายแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่