<"">
ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว. กลุ่ม 40 เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2ล้านล้านบาท ว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังจากที่วุฒิสภาลงมติเห็นชอบผ่านร่างเมื่อคืนนี้ โดยไม่มีการแก้ไขในรายละเอียดมาตรา 3 และ 6 ตามที่มีการเสนอ
ช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ที่ประชุมวุฒิสภาผ่านความเห็นพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ด้วยคะแนน 63 ต่อ 13 เสียง งดออกเสียง 3 โดยให้มีเนื้อหาให้เป็นไปตามร่างฯเดิม ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร
ตลอด 2 วัน ของการพิจารณา สว. เสียงส่วนน้อยต้องการให้ แก้ไขสาระสำคัญ 2 มาตรา โดยในมาตรา 3 ต้องการให้เพิ่มคำว่า "โครงการ" แนบท้าย เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงโครงการภายหลัง และในมาตรา 6 ต้องการให้การกู้เงินต้องนำส่งคลัง จากร่างเดิมไม่ต้องนำส่งคลัง เพื่อให้การกู้ครั้งนี้เข้าสู่ระบบงบประมาณปกติและสามารถตรวจสอบได้ตามกลไกรัฐสภา แต่ทั้ง 2 มาตราก็ตกไป ซึ่ง ส.ว. กลุ่ม 40 เตรียมยื่นเรื่องให้ประธานรัฐสภา บ่ายวันนี้ หรือ เช้าวันพรุ่งนี้ เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ. ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลนำร่าง พ.ร.บ. ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม
นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คว่า การออกกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนี้ จะส่งผลกระทบต่อระบบวินัยการคลัง และเสี่ยงที่จะนำประเทศไปสู่วิกฤติ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นเอกสารร้องเรียน ต่อประธานสภา ให้เร่งส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความว่า ร่างพ.ร.บ.กู้เงินเช่นเดียวกัน
ขณะที่นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรม ระบุว่า การยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความ มองได้ทั้งแง่บวก และลบ แง่บวกจะแสดงให้เห็นได้ว่าไทยมีกระบวนการถ่วงดุลและมีระบบตรวจสอบ แต่ในแง่ลบ ก็จะทำให้สูญเสียความเชื่อมั่น มีผลต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และอาจมีการตั้งคำถามถึงโครงการในอนาคตที่รัฐบาลจะดำเนินการว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่