ประมวลเหตุการณ์ มวลชนเคลื่อนขบวนดาวกระจาย 13 จุด

 

โดยกำชับไม่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ พร้อมประกาศตัดน้ำตัดไฟ และยืนยันจะปักหลักเปิดเวทีที่นี่อีกจุดหนึ่ง ควบคู่ไปกับเวทีราชดำเนิน ที่ยังคงดำเนินต่อไป

 

ส่วนนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเวทีปราศรัยหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เพื่อให้กำลังใจทหารและเรียกร้อง ให้ร่วมแสดงออกในการต่อต้านระบอบทักษิณ พร้อมทั้งมอบดอกกุหลาบสีแดง และนกหวีด ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก

 

ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปที่กองทัพอากาศ เพื่อมอบดอกไม้และนกหวีด ให้กับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ โดยมีตัวแทนมารับมอบ

 

ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ นายสนธิญาณ ชื่นในฤทัยธรรม นำมวลชนไปให้กำลังใจข้าราชการของกองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ เป็นผู้แทนรับเรื่อง

 

ส่วนที่กองทัพไทย นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญชวนข้าราชการทหาร ให้ออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชน โค่นระบอบทักษิณ นอกจากนี้ยังได้ให้ตัวแทนประชาชนนำดอกไม้ ธงชาติ นกหวีด ไปมอบให้ทหาร เพื่อเชิญชวนให้ออกมาร่วมกับประชาชน

 

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำผู้ชุมนุม ไปยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ ให้ตำรวจดูแลและไม่ทำร้ายผู้ชุมนุม ตรวจสอบดำเนินการตำรวจที่ปฏิบัติไม่เป็นธรรมผู้ชุมนุมขอให้ปิดเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูงและอย่าขัดขวางตำรวจที่ต้องการจะเข้าร่วมการชุมนุม จากนั้นมอบดอกไม้ให้ตำรวจ ก่อนจะประกาศชัยชนะ และแยกย้ายกันกลับไปที่เวทีถนนราชดำเนิน

 

ขณะที่นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ นำผู้ชุมนุมไปขอพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ติดภารกิจ มีเพียง พล.ต.ต.อิทธิพล ภิริยะภิณ และ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นตัวแทนรับมอบดอกไม้ และนกหวีด

 

ส่วนขบวนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมเป่านกหวีดเชิญชวนข้าราชการกระทรวงออกมาร่วมต่อต้านระบอบทักษิณ และปราศรัยพาดพิงถึงการทำหน้าที่ ของนายจารุพงศ์เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ขณะที่มีข้าราชการกระทรวงมหาดไทย บางส่วนถือธงชาติไทยโบกตอบรับ

 

ที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กลุ่มผู้ชุมนุมได้ไปรวมตัวด้านหน้าสถานี โดยถือป้ายโจมตีการทำงานของสถานี และการนำเสนอข่าวของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีคุมสถานการณ์เกือบ  200 นาย หลังจากชุมนุมอยู่ที่นี่หลายชั่วโมง ในช่วงเย็นนายสรยุทธ์ ได้ลงมาชี้แจงและแสดงจุดยืนการทำหน้าที่ พร้อมเป่านกหวีดที่แกนนำผู้ชุมนุมมอบให้ ผู้ชุมนุมทั้งหมดจึงเดินทางกลับ

 

ส่วนที่สถานีโทรทัศน์ ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 และ ช่อง 11 ก็มีแกนนำนำผู้ชุมนุมไปแสดงพลัง เพื่อเรียกร้องให้สื่อมวลชนยืนอยู่เคียงข้างประชาชน พร้อมมอบดอกไม้และนกหวีดให้กับผู้บริหารสถานี

 

ขณะที่กลุ่มคปท.ได้เคลื่อนขบวนไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแสดงจุดยืน พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการออกมาร่วมกับประชาชนเช่นกัน แต่ระหว่างเดินทางกลับ มาถึงบริเวณแนวกั้นตำรวจหน้าวัดเบญจมบพิตร กลุ่มผู้ชุมนุมได้รื้อรั้วลวดหนามออกจากแนวกั้นถนนศรีอยุธยา หน้าวัดเบญจมบพิตรออก และตั้งแถวเตรียมเผชิญหน้ากับแนวตั้งรับของตำรวจ แม้จะมีความพยายามเจรจาแต่ไม่สำเร็จโดยได้มีการยื้อยุดกันก่อนที่ตำรวจจะถอยแนว ไปหลังรถขนผู้ต้องขังหลังแบริเออร์ และประกาศจะใช้มาตรการเบาไปหนัก กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้กลับไปที่ตั้งเวทีนางเลิ้ง