อดีตนายกฯ ยูเครนอดอาหารประท้วงกดดันปธน.จับมือกับสหภาพยุโรป

อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของยูเครน ประกาศอดอาหารประท้วง เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดีเปลี่ยนใจ นำพาประเทศไปแนบชิดกับสหภาพยุโรป ไม่ใช่รัสเซีย

ทนายความเป็นผู้อ่านจดหมายของนางยูเลีย ทีโมเชนโก้ อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 52 ปี ซึ่งขณะนี้กำลังรับโทษจำคุก 7 ปีในความผิดฐานทุจริตคอรัปชั่น ทั้งนี้เนื้อความในจดหมายระบุว่า นางทีโมเชนโก้ได้ทำการอดอาหารประท้วงเพื่อให้ประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิช เปลี่ยนใจนำพายูเครนไปแนบชิดกับสหภาพยุโรปหรืออียู

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ประธานาธิบดียานูโควิช ได้กลับใจกระทันหันด้วยการประกาศระงับการลงนามข้อตกลงการค้ากับอียู ซึ่งกำหนดไว้แล้วว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ โอกาสนั้นประธานาธิบดียานูโควิชยังระบุด้วยว่าจะหันยูเครนย้อนทิศทางกลับไปใกล้ชิดกับรัสเซีย ซึ่งทั้งรัสเซีย และยูเครนต่างก็เคยอยู่ในประเทศเดียวกัน คืออดีตสหภาพโซเวียต

การเปลี่ยนใจกระทันหันของประธานาธิบดียานูโควิช ทำให้มีชาวยูเครนออกมาประท้วงมากกกว่า 100,000 คน ซึ่งก็เกิดการปะทะกันกับตำรวจ และผู้ประท้วงยังปักหลักอยู่ภายในกรุงเคียฟต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดียานูโควิช ก็ได้ประกาศยืนยันล่าสุดด้วยว่า ได้ตัดสินใจไปถูกแล้ว เพราะบีบคั้นด้วยความจำเป็นทางเศรษฐกิจ เพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชนที่จะได้รับผลร้าย

อียูกล่าวหาว่ารัสเซียใช้การพึ่งพาทางเศรษฐกิจมากดดันจนยูเครนต้องกลับลำกระทันหัน แต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูตินปฏิเสธ ทั้งนี้เป็นที่รู้กันว่ารัสเซียต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมในสหภาพพิกัดศุลกากรที่รัสเซียเป็นผู้จัดตั้งขึ้นแข่งกับประชาคมยุโรปหรืออียู