จับตา ข้อพิพาทน่านฟ้าเหนือทะเลจีนตะวันออก

 

โดยรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นระบุว่า พร้อมจะรับมือกับการบุกรุกทางอากาศ ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 พ.ย.56) โฆษกครม. ญี่ปุ่น ก็ประกาศว่า แผนที่ของจีนเป็นการบังคับใช้ฝ่ายเดียว และจะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อการเดินเครื่องบินพาณิชย์ของญี่ปุ่น แม้จีนจะประกาศให้เที่ยวบินต่าง ๆ ที่บินผ่านพื้นที่ดังกล่าว ให้แสดงตนต่อทางการจีนก็ตาม แต่ก็มีรายงานว่า บางสายการบิน เริ่มส่งข้อมูลเส้นทางการบินให้กับทางการจีนแล้ว

 

ด้านกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ก็ออกมาประกาศในวันนี้ (26 พ.ย.56) เช่นกัน ว่า เกาหลีใต้ไม่สามารถยอมรับแผนที่เขตป้องกันตนเองทางอากาศเหนือทะเลจีนตะวันออก ของจีนได้ เนื่องจากเป็นการร่างแผนที่เพียงฝ่ายเดียว และยังกินพื้นที่น่านฟ้าเหนือเกาะเอียวโดของเกาหลีใต้ ดังนั้นเกาหลีใต้จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งสัญชาติและเส้นทางเดินเครื่องบินต่อจีน และยังคงเป็นผู้ควบคุมน่านฟ้าแถบดังกล่าวตามเดิม เกาหลีใต้เป็นผู้ครอบครองเกาะเอียวโด แต่จีนก็อ้างสิทธิเหนือเกาะแห่งนี้เช่นกัน

 

และวันนี้ (26 พ.ย.56) กระทรวงต่างประเทศของไต้หวัน ก็ออกมาเน้นย้ำถึงการกล่าวอ้างกรรมสิทธิเหนือเกาะในพื้นที่พิพาทเกาะเตี้ยวอวี๋ไท่ หรือ เกาะเตี้ยวอวี๋ ในภาษาจีนกลาง หรือ เกาะเซ็นกากุ ในภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่ได้ออกมาแสดงปฏิกิริยาโดยตรงต่อแผนที่เขตป้องกันตนเองเหนือน่านฟ้าฉบับใหม่ของจีน แบบที่ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นแสดงออกโดยตรง

 

แต่สำหรับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือ DPP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ออกมาประณามการประกาศแผนที่น่านฟ้าโดยทางการจีนแต่ฝ่ายเดียว เพราะมองว่าเป็นการท้าทายต่อสถานะด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

 

นอกจากการประกาศแผนที่เขตป้องกันน่านฟ้า ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อประเทศแถบทะเลจีนตะวันออกแล้ว วันนี้ (26 พ.ย.56) จีนยังเริ่มต้นภารกิจทดลองเดินเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของกองทัพประชาชน เป็นครั้งแรกอีกด้วย และจะเดินเรือเข้าไปในทะเลจีนใต้ ซึ่งคาดว่าจะสร้างความไม่พอใจและทำให้ชาติที่อ้างสิทธิเหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้ จับตาความเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพราะมองว่านี่อาจเป็นความพยายามของจีน ที่จะเพิ่มน้ำหนักในข้อกล่าวอ้างสิทธิเหนือน่านน้ำและหมู่เกาะในทะเลจีนใต้