เพื่อไทยประกาศนโยบายยาเสพติด เน้น
พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติดภายใน 12 เดือน เน้นการควบคุมป้องกันการเอื้อผลประโยชน์จากหน่วยราชการและการบำบัดผู้เสพยา ภายใต้แนวคิด "ป้องกันนำปราบปราม"
"ป้องกันนำปราบปราม" เป็นนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค เป็นผู้ชูนโยบายด้านยาเสพติด สำหรับนโยบายนี้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายควบคุมตัวยาและสารเคมี
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังตั้งเป้าในการปราบปรามยาเสพติดให้ได้ภายใน 12 เดือน ด้วยมาตรการห้ามไม่ให้มีการซื้อขายตำแหน่ง, เอาผู้เสพมาบำบัด, สร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อประสานความร่วมมือในการป้องกันการขนยาเสพติดเข้าประเทศ รวมถึงต้องดำเนินมาตรการคุ้มครองพยานอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถติดตามต้นตอผู้ผลิตและผู้จำหน่ายให้ได้
ขณะที่ที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงแรกของการบริหารราชการ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการกลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้งของยาบ้า ซึ่งรัฐบาลได้ใช้ยุทธการปราบปรามยาเสพติดเร่งด่วน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน โดยในช่วงสุดท้ายเมื่อปลายปี 2553 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2554 ได้ดำเนินการแผนเร่งด่วนระยะที่ 3 โดยกำหนดให้เป็นการปฏิบัติการร่วมกัน 3 หน่วยงานใหญ่ คือ ตำรวจ ทหาร และสำนักงานปัองกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยเน้นพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งได้สั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เข้ามาร่วมดูแล
นอกจากนี้ยังได้ประสานความร่วมมือไปยังฝ่ายปกครอง โดยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทำรายงานพื้นที่ของตนเองให้ กอ.รมน.รับทราบด้วย ซึ่งมีรายงานว่า กอ.รมน.ได้ระบุผลการวิเคราะห์ว่า 3 อำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอนครหลวง และอำเภอบางปะอิน เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อภัยคุกคามยาเสพติด