<"">
รมว.ต่างประเทศเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อฟังคำวินิจฉัยของศาลโลก กรณีที่กัมพูชาร้องขอให้ออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 18 ก.ค.นี้ เวลา 15.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย
นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวก่อนออกเดินทางไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า ได้เตรียมตัวด้วยการหารือกับคณะที่ปรึกษา นักกฎหมาย เพื่อซักซ้อมต่อกรณีที่อาจจะต้องปฏิเสธคำร้องขอของกัมพูชา หรือการให้การ หรือการโต้แย้งใดๆ ที่จะเกิดขึ้นบนเวทีศาลโลก ซึ่งเชื่อว่า คณะผู้พิพากษาศาลโลกทั้ง 15 ชาติจะรับไปพิจารณา ด้วยหลักการแห่งเหตุผลและกฎหมาย ส่วนเอกสารเพิ่มเติมที่เตรียมไปในครั้งนี้ เป็นเอกสารเกี่ยวกับเหตุการณ์การปะทะกันบริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งยังคงยืนยันข้อเท็จจริงตามเหตุการณ์ที่ปรากฏ เพื่อขอความเห็นใจจากคณะกรรมการมรดกโลกหรือยูเนสโก รวมทั้งไทยได้พยายามติดต่อกับรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชาและอินโดนีเซียมาโดยตลอด เพื่อให้เกิดการเจรจาภายใต้กรอบของ MOU ปี 2543 และกรอบการเจรจา JBC และ GBC จนกระทั่งถึงวันนี้ (15 ก.ค.) ที่รัฐบาลกัมพูชายังคงยืนกรานปฏิเสธที่จะเจรจากับไทยตามกรอบการเจรจาต่างๆ ที่มีอยู่
อย่างไรก็ตาม จากคำแถลงของผู้นำกัมพูชาหลังการประกาศผลการเลือกตั้งที่ระบุว่า จะเป็นมิตรและมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลใหม่นั้น นายกษิตเห็นว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่รัฐบาลไทยคงต้องดำเนินนโยบายระหว่างประเทศอย่างอดทน และไม่นำกรณีพิพาทปราสาทพระวิหารมาเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ด้านอื่น เช่น การปิดชายแดน หรือการทำให้ประชาชนตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศต้องเดือดร้อน