กรรมการ กสทช.แนะ 2 แนวทางพยุงไทยทีวี ก่อนทิ้งใบอนุญาตทีวีดิจิทัล
จากกรณี บริษัท ไทยทีวีพูล จำกัด ขอถอนใบอนุญาตประกอบการทีวีดิจิทัล เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา เหตุไม่สามารถนำเงินมาจ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 2 ได้นั้น
วันที่ 26 พ.ค. 2558 ผศ.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช.กล่าวว่า กสทช.จะดำเนินการตามขั้นตอนกับไทยทีวีและโลก้า โดยเบื้องต้นจะเก็บดอกเบี้ยปรับอัตราร้อยละ 7.5 รายปี ของมูลค่าเงินที่ต้องจ่ายในงวดนั้น และเรียกผู้ได้รับใบอนุญาตมาชี้แจงถึงสาเหตุไม่จ่ายเงินค่าใบอนุญาต อย่างไรก็ดี กรณีผู้รับใบอนุญาตมีแนวโน้มไม่จ่ายเงิน สำนักงาน กสทช.สามารถเรียกเก็บเงินค่าใบอนุญาตจากธนาคารที่รับประกันได้เต็มวงเงิน ที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกันวงเงินไว้กับธนาคาร และบอร์ด กสทช. จะพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตในขั้นตอนต่อไป
“ทุกขั้นตอนไม่มีการกำหนดเวลาตายตัว ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบอร์ด กสทช. ส่วนกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัลมีปัญหาด้านการลงทุน สามารถใช้วิธีการแบ่งเช่าเวลาให้ผู้ประกอบการอื่นดำเนินการได้ในสัดส่วนที่ กสทช.กำหนด รวมทั้งแนวทางการร่วมทุนหรือขายหุ้นบ้างส่วนเพื่อหาแหล่งทุนใหม่มาสนับสนุน ขณะที่การคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ให้ กสทช.ตามระเบียบ ผู้ได้รับใบอนุญาตจะถูกเรียกเก็บเงินจากธนาคารที่รับประกัน และบ่ายวันนี้คณะกรรมการ กสท.เตรียมชี้เเจงกรณีการขอถอนใบอนุญาตของบริษัท ไทยทีวีอีกครั้ง” ผศ.ธวัชชัยกล่าวเพิ่ม
ด้าน สิขเรศ ศิรากานต์ นักวิชาการอิสระผู้วิจัยเรื่องโทรทัศน์ดิจิทัลในไทย กล่าวว่า กรณีบริษัทไทยทีวีขอถอนใบอนุญาตประกอบการทีวีดิจิทัล คาดอาจเกิดจากการประเมินอุตสาหกรรมดังกล่าวผิดพลาด ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมาคาดว่าจะมีงบโฆษณาที่จะหมุนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมนี้กว่า 6-7 แสนล้านบาท ซึ่งต่างจากความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง จากนี้จึงต้องนำข้อเท็จจริงจากผู้ประกอบการมาอ้างอิงมากกว่า