ทัพภาค 2 ยันต้องรอคำสั่ง "รัฐบาล-ผบ.ทบ." ก่อนถอนทหารออกจากพื้นที่

กองทัพภาคที่ 2 ยืนยัน จะยังไม่ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่พิพาท บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ด้านอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลก ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศกัมพูชา เชื่อว่า คำสั่งของศาลโลก ไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายและไปมาหาสู่กันระหว่างชาวบ้านตามแนวชายแดนอย่างแน่นอน

ชาวกัมพูชาจำนวนมากยังคงข้ามจุดผ่านแดนช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเข้ามาซื้อสินค้าตั้งแต่ช่วงเช้า แม้ทหารไทยและกัมพูชายังคงวางกำลังในลักษณะเผชิญหน้ากันอยู่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร แม้ว่าศาลโลก ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ไทยและกัมพูชา เร่งถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อป้องกันเหตุกระทบกระทั่ง

พ.ต.ต.เฮง พิรุน หัวหน้ากองวีซ่าประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องจวม อำเภออัลลองเวง จังหวัดเสียมเรียบ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับด่านช่องสะงำ ระบุ คำสั่งของศาลโลกจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายและไปมาหาสู่กันระหว่างชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่ง

ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ และ นายอำเภอบ้านกรวด และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน ตำบลจันทบเพชร ซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดนเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนักกับคำสั่งของศาลโลก พร้อมกำชับให้ผู้นำท้องถิ่น และ ช.ร.บ. เพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน

ขณะที่ พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ยังยืนยัน กองทัพภาคที่ 2 จะยังไม่ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรบริเวณปราสาทเขาพระวิหารเนื่องจากการดำเนินการต่าง ๆ ต้องรอคำสั่งจากผู้บัญชาการทหารบกและรัฐบาลเท่านั้น ส่วนสถานการณ์ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทั่วไปยังเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย