LPG ภาคอุตสาหกรรม ขึ้นกิโลกรัมละ 3 บาท
นายสมชัย โอวุฒิธรรม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมแก้วและกระจก กล่าวว่า โรงงานเซรามิก และแก้วกระจก ต้องยอมรับกับราคาแอลพีจีที่ปรับขึ้นในวันนี้ (19 ก.ค.) แต่หวังว่ารัฐบาลใหม่จะพิจารณาเลื่อนเวลาขึ้นราคาครั้งต่อไปเป็นปีหน้า หรือปีละ 3 บาท จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะปรับขึ้นทุกๆ 3 เดือนครั้งละ 3 บาท จนครบ 12 บาท เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมมีเวลาปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และเชื้อเพลิง
ด้านนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. ที่กล่าวถึง การเตรียมลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า รัฐบาลสามารถทำได้ แต่ต้องกู้เงินมาสนับสนุนเชื้อเพลิงประเภทอื่นแทน เช่น แก๊สโซฮอล์ พลังงานหมุนเวียน พลังงานสีเขียว แต่สำหรับภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เชื่อว่าจะเริ่มกลับมาจัดเก็บเหมือนเดิม เพราะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้นับแสนล้านบาท แต่ควรจะค่อยๆทยอยเก็บ เพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด พร้อมเรียกร้องรัฐบาลใหม่ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนเฉพาะบางกลุ่ม เช่น ออกบัตรเครดิต แต่ต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต แต่สำหรับมาตรการระยะกลางและระยะยาวควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด
ทั้งนี้ เชื้อเพลิงที่กระทรวงพลังงานแนะนำให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนไปใช้แทนแอลพีจี เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านต้นทุน คือ น้ำมันเตาและถ่านหิน แต่เชื้อเพลิง 2 ประเภทนี้ อาจถูกต่อต้านจากประชาชน เพราะสร้างมลพิษ โดยเฉพาะถ่านหิน ที่คาดการณ์ได้เลยว่าจะไม่ผ่านการสำรวจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ