นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (9 ก.พ.2559) กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งเพิ่มเติม 3 ด้าน ได้แก่ การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพและมีรายได้ลดลง โดยจะให้กู้ยืมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายวงเงินรวม 6,000 ล้านบาท คนละไม่เกิน 12,000 บาท คาดว่าช่วยเหลือเกษตรกรได้ 500,000 คน ปลอดดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก จากนั้นคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 4 ในช่วง 6 เดือนหลัง ทำให้มีภาระดอกเบี้ยเฉลี่ยเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น
ส่วนการปล่อยเงินกู้ในโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอีภาคเกษตร ปล่อยสินเชื่อต่อคนไม่เกิน 20 ล้านบาท วงเงินรวม 7.2 หมื่น ล้านบาท เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นเอสเอ็มอีประจำตำบล โดยการปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนร้อยละ 4 ต่อปี เพื่อยกระดับเกษตรกรให้ขึ้นมาเป็นเอสเอ็มอีที่เข้มแข็งและการช่วยเหลือชุมชน ปรับเปลี่ยนการผลิตสู่วิกฤตวงเงินสินเชื่อรวม 15,000 ล้านบาท เพื่อจูงใจให้เกษตรกรปรับโครงสร้างการผลิต เป็นโครงการ 3 ปี โดยเงินกู้ให้ชุมชนเเละจากนั้นให้ไปจ้างเกษตรกร 1 เเสนคน คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี โดยการเข้าไปสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนผ่านเครือข่ายของ ธ.ก.ส. ยึดหลักการพี่ช่วยน้อง หากชุมชนใดต้องการเงินทุน ธ.ก.ส.ก็จะเข้าไปช่วยดูแล
การช่วยเหลือเกษตรกรและชุมชน รวมไปถึงเอสเอ็มอีภาคเกษตรนั้นจะใช้เงินของ ธ.ก.ส.ทั้งหมด แต่มีส่วนของอัตราดอกเบี้ยที่รัฐบาลจะต้องจ่ายชดเชยเพื่อไม่ให้กระทบฐานะของธนาคาร เบื้องต้น ธ.ก.ส.เสนอขอวงเงินชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3.99