วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด ลงนามในเอกสารคำสั่งที่ HR 111/2016 เลิกจ้างผู้จัดการแผนกรักษามาตรฐานการบิน และนักบินผู้ควบคุมอากาศยาน โดยไม่จ่ายค่าชดเชยและเงินใด ๆ เนื่องจากจงจงใจกระทำความผิดร้ายแรงต่อบริษัท และยังสั่งพักงาน รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการบิน และนักบินผู้ควบคุมอากาศยาน ผู้อำนวยการแผนกมาตรฐานการบินและนิรภัยการบิน และนักบินผู้ควบคุมอากาศยาน เป็นเวลา 7 วันทำการ
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งสอบสวนนักบินอีก 7 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักบินที่มีตำแหน่งบริหาร เนื่องจากมีเหตุอันควรที่เชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับกรณีที่นักบินมีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และอาจเป็นการจงใจละทิ้งหน้าที่ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2559
ด้าน นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า วานนี้ (15 ก.พ.) จากการเชิญสายการบินเข้าหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาและมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้างที่สนามบิน ซึ่งมี 13 สายการบินเข้าร่วมประชุม ขาดเพียงสายการบินนกแอร์ที่ประสบปัญหาไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมหารือ ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ ได้สั่งให้ผู้บริหารสายการบินนกแอร์เข้าชี้แจงปัญหายกเลิกเที่ยวบินวันนี้ และทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้กระทรวงฯ ภายใน 3 วัน
นายออมสินกล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมได้แจ้งให้ทุกสายการบินรับทราบแนวทางแก้ปัญหา ถ้าเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก ขอให้ทุกสายการบินมีแผนฉุกเฉินหรือแผนบริหารความเสี่ยงสำรองไว้ และต้องมีข้อกฎหมายชดเชยค่าเสียหายให้ผู้บริโภค โดยต้องส่งแผนให้กระทรวงภายใน 1 เดือน นับจากนี้
“ส่วนมาตรการรับผิดชอบของสายการบิน หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยครั้งแรกจะถูกตักเตือน ครั้งที่ 2 พิจารณาพักใบอนุญาตชั่วคราว และครั้งที่ 3 พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งการกระทำผิดของนกแอร์ครั้งนี้อยู่ในข่ายทำผิดครั้งแรก ต้องรอฟังคำชี้แจงจากนกแอร์ก่อนถึงค่อยพิจารณาบทลงโทษ อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมาตรฐานองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป แต่อาจเกี่ยวกับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ” รมช.คมนาคม ระบุ
ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีปัญหาการยกเลิกเที่ยวบินของสายการบินนกแอร์ ว่า ถือเป็นเรื่องภายในที่สายการบินนกแอร์จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งทางรัฐบาลจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์บานปลาย และไม่กระทบกับภาพลักษณ์ทางด้านการบิน รวมถึงการเป็นศูนย์กลางทางด้านการบินของอาเซียน