วันนี้ (17 ก.พ.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้พิพากษาศาลแขวงนครลอสแองเจลิสของสหรัฐอเมริกามีคำสั่งให้ บริษัท แอปเปิล ปลดล็อคโทรศัพท์ไอโฟนรุ่น 5 ซี ของนายไซเอ็ด ริซวาน ฟารูค หนึ่งในผู้ก่อเหตุกราดยิงที่เมืองซาน เบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน และบาดเจ็บ 22 คน โดยระบุว่าบริษัทต้องให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคอย่างสมเหตุสมผลกับทีมสอบสวน
ทั้งนี้บริษัทมีเวลา 5 วันทำการคัดค้านคำสั่งดังกล่าวหากเห็นว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำตามคำสั่งของศาลมีขึ้น 1 สัปดาห์ หลังจากนายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ แจ้งต่อสภาคองเกรสว่าทีมสอบสวนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ไอโฟนของผู้ก่อเหตุได้ พร้อมระบุว่า การใช้วิธีเข้ารหัสที่ยากแก่การเข้าถึงเป็นสิ่งที่ขัดขวางความมั่นคงแห่งชาติและการสอบสวนคดีอาชญากรรม
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เตือนว่าการที่รัฐบาลบังคับให้บริษัทเอกชนลดทอนความเข้มงวดในการเข้ารหัสจะทำให้ข้อมูลของลูกค้าถูกแฮคได้ง่าย ถือเป็นการทำลายความมั่นคงทางอินเทอร์เนทและเปิดช่องให้บริษัทต่างชาติมีความได้เปรียบเหนือกว่าบริษัทของสหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทแอปเปิลเคยได้รับคำสั่งในลักษณะเดียวกันจากผู้พิพากษาในบรูคลิน นิวยอร์ค ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะปลดล็อคโทรศัพท์ไอโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส 8 ขึ้นไป ซึ่งในกรณีของนายฟารูค ใช้ระบบปฏิบัติการ 9
ล่าสุดนายทิม คุก ผู้บริหารของบริษัทแอปเปิล ยืนยันไม่ทำตามคำสั่งศาล พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซท์ของบริษัทว่า บริษัทไม่ต้องการดำเนินการใดๆ ที่จะเป็นการคุกคามความปลอดภัยของลูกค้า โดยอ้างว่าเป็นการเสี่ยงเกินไปที่จะให้ซอฟท์แวร์ตามที่รัฐบาลขอเพราะจะทำให้รัฐบาลสามารถปลดล็อคโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องไหนก็ได้ ซึ่งจะสร้างความกังวลให้กับลูกค้าทั้งหมด