นนี้ (7 มี.ค.2559) นายสุรพงษ์ สิทธิกรณ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพระมหาศาสนมุนี (หลวงพี่แป๊ะ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ และเลขานุการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นำรถเบนซ์ทะเบียน ขม.99 กรุงเทพมหานคร ส่งคืนให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมขอให้มีการดำเนินคดีกับผู้ขายรถคันดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเลขทะเบียน งค.1560 กรุงเทพมหานคร โดยมีชื่อสมเด็จช่วงเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งดีเอสไออยู่ระหว่างการเชิญสมเด็จช่วงชี้แจงภายในสัปดาห์นี้
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กล่าวว่า ดีเอสไอจะรับรถไว้ดูแล แต่ไม่ดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากมีการตรวจสอบและแถลงผลชัดเจนแล้วว่า เป็นรถจดประกอบผิดกฎหมาย
ขณะที่นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ดำเนินการในฐานะตัวแทนของหลวงพี่แป๊ะ โดยส่งมอบรถที่ซื้อมาจากนายวิชาญ รัษฐปานะ ให้ดีเอสไอตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ขาย เพราะหลวงพี่แป๊ะเป็นเพียงผู้ซื้อและไม่ทราบว่าเป็นรถผิดกฎหมาย ส่วนกรณีที่มีชื่อสมเด็จช่วงเป็นผู้ครอบครองนั้น สมเด็จช่วงได้คืนรถโดยโอนลอยให้กับหลวงพี่แป๊ะที่เป็นผู้บริจาคหลายวันแล้ว แต่ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองได้ เพราะดีเอสไอระงับการทำธุรกรรม อย่างไรก็ตาม สมเด็จช่วงไม่สามารถเข้าให้ปากคำตามหนังสือขอนัดหมายของดีเอสไอ เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา