วันนี้ (10 มี.ค.2559) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ญี่ปุ่นเริ่มปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่อสึนามิพัดถล่มบริเวณอ่าวริคุเซนทาคาตะ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 อีกครั้ง หลังครอบครัวของผู้ประสบภัยและประชาชน 28,140 คน เรียกร้องให้ทางการญี่ปุ่นเดินหน้าค้นหาร่างผู้สูญหายอีกครั้งก่อนที่การก่อสร้างกำแพงป้องกันคลื่นจะเสร็จสิ้นลง รายงานล่าสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น ระบุว่า ยอดผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวในจังหวัดอิวาเตะ จังหวัดมิยากิ และจังหวัดฟูกูชิมะ มีจำนวนทั้งหมด 2,558 คน
สำหรับเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 เกิดขึ้นเมื่อปี 2554 บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิซัดถล่มหลายจังหวัดจนมีผู้เสียชีวิตประมาณ 18,500 คน ความรุนแรงของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นยังทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเกิดระเบิดขึ้นและกลายเป็ยนภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลเกิดการระเบิด เมื่อปี 2529
ขณะที่นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศว่า พลังงานนิวเคลียร์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเสถียรภาพด้านพลังงานของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรทางธรรมชาติ พร้อมทั้งแสดงจุดยืนในการดำเนินนโยบายเปิดใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ได้มาตรฐานอีกครั้ง นอกจากนี้ ผู้นำญี่ปุ่นยังให้คำมั่นว่าจะเร่งดำเนินการขจัดการปนเปื้อนของสารกัมมันตภาพรังสีในจังหวัดฟูกูชิมะ เพื่อยกเลิกคำสั่งอพยพที่ประกาศใช้ในหลายพื้นที่ ภายในเดือน มี.ค. 2560 แต่ยังคงบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดฟูกูชิมะเท่านั้น