วันนี้ (8 เม.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) พร้อมด้วยเครือข่าย ฟ.ฟัน สร้างสุข และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อผู้ประกันตนกว่า 10,000 รายชื่อ ต่อนายสุวิทย์ สุมาลา รองปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เรียกร้องให้ปฏิรูปสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมประกันสังคม
นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน กล่าวว่า การจำกัดวงเงินสิทธิประโยชน์ทางทันตกรรมไว้เพียงปีละ 600 บาท โดยที่ผู้ประกันตนต้องสำรองจ่ายไปก่อน ทำให้ผู้ประกันตนที่มีรายได้น้อยเข้าไม่ถึงสิทธิ์ จึงเรียกร้องให้ สปส.เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรม ให้เท่าเทียมกับระบบหลักประกันสุขภาพอื่นใน 3 ประเด็น คือการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าตัดฟันคุด ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิ์ได้รับบริการตามความเป็นจริง โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้เป็นฐานพลาสติกบนและล่าง ได้ตามความเป็นจริงโดยไม่ต้องสำรองจ่าย และเพิ่มการตรวจสุขภาพทางช่องปากประจำปีทั้งในคลินิก โรงพยาบาลรัฐและเอกชน หรือเป็นหน่วยบริการเคลื่อนที่
นอกจากนี้ ขอให้มีการตั้งคณะทำงานปฏิรูปสิทธิประโยชน์ประกันสังคมกรณีทันตกรรมโดยมีตัวแทน สปส., คปค. และเครือข่ายร่วมเป็นคณะทำงานด้วย ซึ่งเชื่อว่าส ปส.สามารถเพิ่มสิทธิ์กรณีทันตกรรมได้ โดยปัจจุบัน สปส.มีเงินสะสมใน 4 กองทุนทั้งเจ็บป่วย ตาย ทุพพลภาพ และกรณีว่างงาน รวมกว่า 42,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำเงินจาก 4 กองทุนบางส่วน มาตั้งเป็นกองทุนสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมและสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับช่องปากได้ เพื่อเป็นของขวัญในวันแรงงาน 1 พ.ค.นี้
ด้านรองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การที่ คปค. และเครือข่ายมีข้อเสนอเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตน โดยจะนำหนังสือข้อเรียกร้องการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมไปเสนอต่อ ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน และ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รวมทั้งแจ้งไปยัง สปส. โดยจะมีการนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) ในวันที่ 12 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ทาง คปค. และภาคีเครือข่ายได้รวบรวมรายชื่อผู้ประกันตนผ่านเว็บไซต์ change.org ได้แล้วกว่า 10,000 รายชื่อ และจะประชุมหารือกันอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย.นี้ เพื่อกำหนดท่าทีเคลื่อนไหว และจะมาติดตามความคืบหน้าข้อเรียกร้องในวันที่ 28 เม.ย.นี้ที่ สปส. หากไม่มีการตอบรับข้อเรียกร้อง ก็จะรวบรวมรายชื่อผู้ประกันตนให้ได้ประมาณ 1 ล้านรายชื่อ และไปยื่นข้อเรียกร้องและรายชื่อผู้ประกันตนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลภายในเดือน เม.ย.นี้