นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนักการเมืองเจ้าของพื้นที่ตัวจริง เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรครัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน จะให้ความสำคัญกับภารกิจการพัฒนา จ.สุพรรณบุรี และมีบทบาทสำคัญในทางการเมืองหลายยุคหลายสมัย
วันที่ 13 เม.ย.2559 นายบรรหาร ศิลปอาชา ในฐานะผู้นำพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมายืนยันถึงเจตนารมณ์ที่จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ ด้วยเหตุผลว่าต้องการให้ประเทศเดินไปสู่การเลือกตั้งและเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ แม้จะยอมรับว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อเสียอยู่บ้างก็ตาม
นายบรรหารมีสมญานามทางการเมืองว่า "มังกรการเมือง" ด้วยบทบาทการทำงานที่โดดเด่นในวงการการเมือง โดยเฉพาะการเป็นพรรคขนาดกลางที่จะให้การสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลหรือพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ตามแต่สถานการณ์การเมืองที่พรรคเห็นว่าเหมาะสม บางคนก็เรียกนายบรรหารว่า "เติ้ง" เพราะเห็นว่าเขามีรูปร่างและบุคลิกคล้ายกับนาย เติ้ง เสี่ยว ผิง อดีตผู้นำสูงสุดของจีน
แต่สำหรับคนใน จ.สุพรรณบุรี นายบรรหารเป็น "พ่อเมือง" หรือเจ้าของพื้นที่ จึงเรียกขานนายบรรหารกันว่า "มังกรสุพรรณ" ซึ่งไม่เพียงแต่มาจากภารกิจการพัฒนา จ.สุพรรณบุรี อย่างต่อเนื่องและจริงจังเท่านั้น แต่ยังหมายถึงสัญลักษณ์ของจังหวัดที่นายบรรหารมีดำริจัดสร้างขึ้น นั่นคือเสาหลักเมืองที่มีมังกรพันล้อมรอบที่กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของสุพรรณบุรี
นายบรรหารเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของไทยเมื่อปี 2538 เขาเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวงในแต่ละรัฐบาล และเป็นอดีต ส.ส.สุพรรณบุรีทั้งหมด 11 สมัย โดยเข้าสู่ถนนการเมืองจากคำเชิญชวนของนายบุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ ตั้งแต่มีการก่อตั้งพรรคชาติไทยเมื่อปี 2517
บนเส้นทางการเมือง นายบรรหารผ่านร้อนผ่านหนาวมาก แต่เหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ทำให้เขาสะเทือนใจถึงกับหลั่งน้ำตา คือเมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคชาติไทยเมื่อปี 2551 จากกรณีทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2550 เขาเป็นผู้นำปิดป้ายพรรค ปิดตำนานพรรคเก่าแก่ 34 ปีลง แต่หลังจากนั้นนายบรรหารก็ได้สร้างพรรคการเมืองใหม่ภายใต้ชื่อพรรคชาติไทยพัฒนา และทำหน้าที่เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคจวบจนถึงวันที่ถึงแก่อนิจกรรมด้วยความสงบเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 เม.ย.2559 ที่ ร.พ.ศิริราช