วันนี้ (13 พ.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย เข้าพบพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ข้อมูลในฐานะพยาน กรณีที่พนักงานสอบสวนพบหลักฐานว่านายสัมพันธ์มีชื่อถือหุ้นใน บริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งพบชื่อ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซื้อหุ้น ด้วยเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น 300 ล้านบาท ผ่านวิธีการสั่งจ่ายเช็ค 10 ฉบับ
นายสัมพันธ์ เปิดเผยภายหลังเข้าพบพนักงานดีเอสไอว่า เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้จริง แต่ไปในฐานะทนายความที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องกฎหมายและคดีความทั้งหมด ส่วนการที่มีชื่อเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นนั้นจำไม่ได้ว่ามาจากเหตุการณ์อะไร เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว
"ผมเข้าไปในฐานะนักกฎหมาย ไปดูในเรื่องปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อเจรจาคดีความที่อยู่ในศาลและดูแลเรื่องการปรับปรุงหนี้" นายสัมพันธ์กล่าวและยืนยันในส่วนของการลงทุนนั้นจำไม่ได้ เพราะดูแลเรื่องกฎหมายและเรื่องคดีความอย่างเดียว ส่วนเรื่องเงินนั้นไม่รู้เรื่อง
นายสัมพันธ์กล่าวต่ออีกว่า หุ้นของบริษัทดังกล่าวมีนายจำลอง ทับสุวรรณ และ นายบรรลือ กองชัย เป็นผู้ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย และทั้ง 2 คน ยังเป็นผู้บริหารจัดการหุ้นทั้งหมด ทั้งนี้ ตนเข้าไปถือครองหุ้นเพียงระยะสั้นและไม่ได้ผลประโยชน์ตอบแทน
ด้าน พ.ต.ท.บรรฑูรย์ ฉิมกรา ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ กล่าวว่า การสืบสวนทางคดีนี้พบความเชื่อมโยงทางการเงิน ซึ่งนายสัมพันธ์มีชื่อถือครองหุ้นในบริษัทดังกล่าว และเชื่อได้ว่าเป็นการถือครองแทนนายศุภชัย เนื่องจากมีเส้นทางการโอนย้ายในกลุ่มของนายศุภชัยมายังนายสัมพันธ์ ทั้งนี้ หลังจากสอบปากคำดีเอสไอได้นัดนายสัมพันธ์มาพบอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ค. 2559