หลังจากทราบคำตัดสิน ชาราโปวา เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 5 สมัยระบุในเฟซบุ๊กว่าเธอเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกอย่างเร่งด่วน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ของตัวเอง
ปัญหาเรื่องการไม่ผ่านตรวจโด๊ปของชาราโปวาได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2559 โดยชาราโปวาจัดแถลงข่าวที่เมืองลอส แองเจลีส สหรัฐอเมริกาเพื่อแจ้งต่อสื่อมวลชนว่า เธอได้รับการแจ้งจากองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามกีฬาโลก (WADA) ว่าไม่ผ่านการตรวจโด๊ปในการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียน โอเพนเมื่อเดือนมกราคม 2559
ชาราโปวาชี้แจงว่าเธอมีปัญหาสุขภาพและแพทย์ประจำตัวได้จ่ายยาที่มีชื่อว่า มิลโดรเนต (mildronate) ให้เธอตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งเธอได้ใช้มาอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยที่เธอไม่รู้มาก่อนว่ายาตัวนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า "เมลโดเนียม" (meldonium) ซึ่งเพิ่งจะได้รับการบรรจุในบัญชีสารต้องห้ามของ Wada เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2559
"มาเรีย ชาราโปวา" ยอมรับ "ทำผิดพลาดครั้งใหญ่" กรณีตรวจโด๊ปไม่ผ่าน
"ฉันใช้ยาตัวนี้มาตลอด 10 ปี จนกระทั่งได้รับหนังสือจากสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) จึงได้รู้ว่ายาตัวนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า meldonium" ชาราโปวากล่าว "ประเด็นสำคัญที่อยากย้ำให้ทุกคนเข้าใจก็คือยาตัวนี้ไม่ได้อยู่ในบัญชีสารต้องห้ามของ WADA มาก่อน ซึ่งหมายถึงว่าฉันใช้มันได้อย่างถูกต้องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่ง WADA ขึ้นบัญชี meldonium เป็นสารต้องห้ามเมื่อวันที่ 1 ม.ค. โดยที่ฉันไม่รู้มาก่อน (ว่าเป็นยาตัวเดียวกัน)"
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) ชาราโปวาได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่าจากกรณีดังกล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นโดยสหพันธ์เทนนิสนานาชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าเธอไม่ได้จงใจใช้สารเมลโดเนียมและการที่เธอเข้ารับการรักษากับแพทย์ก็ไม่ได้เป็นไปเพื่อให้ได้ยาที่มีสารกระตุ้น
"สหพันธ์เทนนิสนานาชาติพยายามพิสูจน์ว่าฉันใช้สารกระตุ้นโดยตั้งใจหรือไม่ ซึ่งก็สรุปว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่คณะกรรมการสอบสวนก็ยังมติลงโทษแบนเป็นเวลา 2 ปี ดังนั้นฉันจึงจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ต่อศาลกีฬาโลกทันที" ชาราโปวาระบุ พร้อมกับแสดงความรู้สึกว่า "ฉันคิดถึงการเล่นเทนนิส คิดถึงแฟนๆ ฉันได้อ่านข้อความที่แฟนๆ ส่งมาทั้งทางจดหมายและข้อความในโซเชียลมีเดีย ฉันจะต่อสู้เพื่อความถูกต้องและเพื่อให้กลับมาเล่นเทนนิสได้อีกครั้งโดยเร็วที่สุด"