เจ้าหน้าที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมนักวิจัยด้านชีววิทยาทางทะเล สำรวจแนวปะการังบริเวณเกาะสิงห์และเกาะสังข์ แหล่งดำน้ำและดูปะการังน้ำตื้นขึ้นชื่อของ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในระดับน้ำลึกประมาณ 3-5 เมตร พร้อมเก็บตัวอย่างและวัดอุณหภูมิน้ำ ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 29 องศาเซลเซียส ลดลงจากเดิมที่ 31 องศาเซลเซียส ผลการสำรวจพบแนวปะการังอยู่ในระดับเสื่อมโทรมถึงเสื่อมโทรมมาก ปะการังส่วนหนึ่ง เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังโขด ปะการังสมอง หัก มีสีน้ำตาลคล้ำ บางส่วนถูกปกคลุมด้วยสาหร่ายสีดำ
นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ระบุว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ผนวกรวมพื้นที่บางส่วนของเกาะทะลุ เกาะสิงห์ และเกาะสังข์ เข้ากับพื้นที่บนฝั่งของวนอุทยานป่าแม่รำพึงและวนอุทยานป่ากลางอ่าวใน อ.บางสะพาน รวมเนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม แต่ที่ผ่านมาเกาะทั้ง 3 แห่ง โดยยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวและภัยธรรมชาติจนแนวปะการังได้รับความเสียหายอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง จากนี้จึงต้องเร่งหามาตรการบริหารจัดการอย่างถูกวิธีตามหลักวิชาการ
ผอ.ส่วนอุทยานฯ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ยังระบุอีกว่า เกาะสิงห์และเกาะสังข์ อาจต้องประกาศคุ้มครองตามอำนาจส่งเสริม พ.ร.บ.การบริหารและการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาตรา 22 และ 23 และอาจต้องงดกิจกรรมดำน้ำในบางส่วนเพื่อป้องกันแนวปะการังไม่ให้เสียหายทั้งหมด
ส่วนเกาะทะลุ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ประกาศใช้มาตรการ 13 ข้อ เพื่อควบคุมพื้นที่ไปแล้วก่อนหน้า จากสถานการณ์ปะการังฟอกขาว