วันนี้ (29 มิ.ย.2559) ผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ทั้ง 27 ชาติ เข้าร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของอียู รวมทั้งการเตรียมการเพื่อการเปลี่ยนผ่าน หลังอังกฤษลงประชามติแยกตัวออกจากอียู ผู้นำส่วนใหญ่ รวมทั้งประธานาธิบดีลักเซ็มเบิร์ก ยังคงยืนยันว่า จะไม่ยอมเจรจากับอังกฤษจนกว่าอังกฤษจะดำเนินการตามระเบียบการถอนตัวอย่างเป็นทางการเสียก่อน นั่นคือการยื่นเรื่องตามมาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมอียูโดยไม่มีอังกฤษเข้าร่วมด้วย ครั้งแรกในรอบมากกว่า 40 ปี
ผู้นำสกอตแลนด์หารือร่วมผู้นำอียู หวังอยู่ในอียูต่อ
นางนิโคลา สเตอร์เจียน ผู้นำสกอตแลนด์ ให้สัมภาษณ์สื่อหลังเข้าหารือร่วมกับนายมาร์ติน ชูลซ์ ประธานรัฐสภายุโรป ในกรุงบรัสเซลส์ ว่าได้อธิบายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับท่าที รวมถึงความต้องการของสกอตแลนด์ในการอยู่ในอียูและปกป้องความสัมพันธ์กับอียูเช่นนี้ต่อไปให้กับอียูรับทราบแล้ว พร้อมทั้งระบุว่าการหารือในครั้งนี้ยังถือว่าเป็นเพียงแค่การหารือในเบื้องต้นเท่านั้น และยอมรับว่ายังคงมีอุปสรรคที่ต้องเผชิญอีกมาก หลังจากนี้ผู้นำสกอตแลนด์ยังมีกำหนดการเข้าพบหารือร่วมกับนายฌอง-คลอด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป รวมถึงการเข้าพบผู้นำกลุ่มการเมืองของอียูต่อไป แม้ว่านายโดนัลด์ ทุสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป จะปฏิเสธไม่เข้าร่วมหารือด้วยก็ตาม เนื่องจากระบุว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
ชาวลอนดอนหลายพันคนรวมตัวประท้วง Brexit
ชาวอังกฤษหลายพันคนรวมตัวกันบริเวณจัตุรัสทราฟัลการ์ในกรุงลอนดอนเพื่อประท้วงต่อต้านผลการลงประชามติแยกตัวออกจากอียู ก่อนที่จะออกเดินทางไปประท้วงต่อบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา โดยมีการคาดการณ์ว่า การประท้วงในลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นอีกในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ นายโรเจอร์ เกล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคคอนเซอร์เวทีฟของอังกฤษ ขึ้นปราศรัยท่ามกลางกลุ่มผู้ประท้วงว่า แม้ว่าตนจะสนับสนุนการแยกตัว แต่ต้องการประณามรัฐบาลอังกฤษและแกนนำฝ่ายสนับสนุนการแยกตัวออกจากอียูที่ไม่มีการเตรียมแผนการรับมือหลังการทำประชามติแยกตัว