ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟคเน้นความงามดั่งเทพนิยายของ The Hobbit หรือภาพเอฟเฟคที่เน้นความสมจริงใน The Hunger Games ความโดดเด่นด้านภาพในหนังสุดฮิตเหล่านี้ ล้วนเป็นฝีมือการผลิตของอดีตศิษย์เก่าจาก Gnomon School of Visual Effects วิทยาลัยในฮอลลีวูด ที่เชี่ยวชาญด้านวิชวล เอฟเฟค สำหรับใช้ในวงการภาพยนตร์และวิดีโอเกม จนได้รับฉายาให้เห็น MIT แห่งวงการ วิชวล เอฟเฟค
Gnomon School ก่อตั้งในปี 1997 ปัจจุบันมีผู้สนใจมาศึกษายังสถาบันแห่งนี้เพิ่มเป็น 450 คน โดยผู้ฝึกสอนล้วนเป็นศิลปินวิชวล เอฟเฟคที่อยู่เบื้องหลังหนังและวิดีโอเกมดังของฮอลลีวูด ประสบการณ์ตรงที่นำมาถ่ายทอดแก่นักศึกษา ทำให้ผู้ที่จบจาก Gnomon School มีอัตราการว่าจ้างงานถึงร้อย 94
หลักสูตรของ Gnomon School มีนับร้อยหลักสูตร การเรียนการสอนมีตั้งแต่การออกแบบภาพกราฟฟิก 3 มิติในคอมพิวเตอร์ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จนถึงการสร้างผลงานระดับพื้นฐาน อาทิ ชั้นเรียนวาดภาพ, ความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีสี และการปั้นหุ่นจำลอง โดยห้องเรียนถูกออกแบบให้เหมือนกับสตูดิโอที่ศิลปินใช้ในการทำงานจริงๆ
เบรตต์ ชีลด์ส นักศึกษาของ Gnomon School กล่าวว่า คงไม่มีที่ไหนอีกแล้วในอเมริกาที่มืออาชีพจากวงการหนังและเกม จะมาสอนเทคนิกการสร้างผลงานในสภาพแวดล้อมที่สมจริงเช่นนี้ ส่วน ธอม เมย์ นักศึกษาอีกรายยอมรับว่าการมาเรียนที่นี่ ทำให้เขามีโอกาสทำความรู้จักผู้คนในแวดวงหนังและเกมของฮอลลีวูดหลายคน และยังได้เรียนรู้การทำงานอันหลากหลาย
อเล็กซ์ อัลวาเรซ ผู้ก่อตั้ง Gnomon School กล่าวว่า การที่วงการมีหนังรายได้ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่าง Avatar และวิดีโอเกมรายได้ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่าง World of Warcraft คือสิ่งที่แสดงถึงการเติบโตของวงการวิชวล เอฟเฟค เป็นอย่างดี ซึ่งจุดประสงค์ที่เขาตั้งสถาบันแห่งนี้ คือการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับบรรดาคนรุ่นใหม่ที่มีฝันสร้างสรรค์ผลงานในวงการภาพยนตร์และวิดีโอเกมในอนาคต
ผู้กำกับหนัง Star Wars เจ. เจ. อับรามห์ กล่าวว่า เขาเคยฝันให้สถาบันอย่าง Gnomon School มีอยู่จริงในสมัยที่เขาเป็นเด็ก เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้สอนแค่กระบวนการ แต่ให้ผู้เรียนได้เข้าใจสภาพการทำงานที่แท้จริงของศิลปินวิชวล เอฟเฟคอีกด้วย