ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากหากลดราคาขายปลีกลง 50-60 สตางค์ต่อกิโลกรัม ก็ถือว่าไม่มากนัก จึงมีข้อเสนอให้ กบง.ลดอัตราชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชี LPG แทน ซึ่งปัจจุบันชดเชยอยู่ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม ซึ่งการชดเชยในอัตรานี้ ทำให้มีเงินไหลออกเดือนละ 200 ล้านบาท จากเงินที่มีสะสมอยู่ 7,218 ล้านบาท
สำหรับราคาแอลพีจีตลาดโลกเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 301 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ลดลงจาก 344 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเมื่อเดือนมิถุนายน ขณะที่ราคาจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติและโรงกลั่นน้ำมันภายในประเทศ ปรับลดลงเล็กน้อย
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว กล่าวว่า หากระดับราคาขายปลีก LPG ไม่ได้ลดลงมาก เห็นว่าควรจะเก็บเงินสะสมเข้ากองทุนแอลพีจี เพราะในระยะยาวหากราคา LPG ปรับขึ้นก็จะได้มีเงินไว้รักษาเสถียรภาพราคา
ข้อมูลการใช้ LPG ภาคครัวเรือนล่าสุดในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ระดับ 5.4 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน ร้อยละ 0.7 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนร้อยละ 0.9