ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 โดย รศ.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,400 ตัวอย่าง จากประชาชน ผู้ประกอบการภาคเอกชนและข้าราชการภาครัฐ ถึงสถานการณ์คอร์รัปชั่น
โดยสำรวจใน 3 ประเด็นคือ ความรุนแรงของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น, ทัศนคติและจิตสำนึกของคนในสังคมต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นและประสิทธิภาพต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น พบว่าดัชนีคอร์รัปชั่นเดือนมิถุนายน 2559 อยู่ที่ 53 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนธันวาคม 2558 ที่อยู่ที่ 55 เนื่องจากภาครัฐเริ่มมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงให้เกิดการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การใช้ดุลพินิจที่เอื้อต่อการทุจริตและการบังคับใช้กฎหมาย
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างจริยธรรม จิตสำนึกและไม่เห็นด้วยกับการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยอัตราการจ่ายเงินใต้โต๊ะเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1-15 จากปี 2557 อยู่ที่ 15-25 ซึ่งอัตราการจ่ายดังกล่าวจะทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 60,000-180,000 ล้านบาท ส่งผลต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงร้อยละ 0.42-1.3
องค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประเมินสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยดีขึ้น โดยเลื่อนอันดับจาก 12 มาอยู่อันดับ 10 ในเอเชีย ได้คะแนน 38 คะแนน และอยู่อันดับ 76 ของโลก พร้อมเสนอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด การสร้างจิตสำนึกและปรับปรุงกฎระเบียบ การประมูลการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกร่วมตรวจสอบ