รัฐบาลเมียนมาเปิดเผยผลสำรวจสำมะโนประชากรซึ่งจัดทำขึ้นตั้งแต่ปี 2557 โดยพบว่าจำนวนชาวมุสลิมในเมียนมามีเพียงร้อยละ 2.3 หรือ ประมาณ 1.1 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 51.48 ล้านคน ซึ่งถือว่าน้อยกว่าจำนวนของชาวคริสต์ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีอยู่ร้อยละ 6.3 ขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศร้อยละ 90 เป็นชาวพุทธ
ข้อมูลดังกล่าวขัดแย้งกับการกล่าวอ้างของกลุ่มชาตินิยมชาวพุทธหัวสุดโต่งที่ระบุว่า จำนวนประชากรชาวมุสลิมในเมียนมาเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากและกำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งข้ออ้างนี้ส่งผลให้เกิดความรู้สึกรังเกียจศาสนาอิสลามขยายลุกลามไปทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมา
การสำรวจสำมะโนประชากรครั้งนี้ถือเป็นการจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกในเมียนมานับตั้งแต่ ปี 2526 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจคนเข้าเมืองและประชากรของเมียนมา ระบุว่า ตัวเลขสัดส่วนประชากรที่นับถือศาสนาต่างๆ ไม่ได้แตกต่างจากข้อมูลเมื่อปี 2526 มากนัก
ขณะที่กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติยูเอ็นเอฟพีเอ แสดงความยินดีที่เมียนมาจัดทำสำมะโนประชากรขึ้น แต่ก็แสดงความกังวลต่อกรณีที่การจัดทำข้อมูลในครั้งนี้ไม่ได้นับรวมตัวเลขกลุ่มชาติพันธุ์โรฮิงญา ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1 ล้านคน เข้าไปด้วย