วันนี้ (28 ก.ค. 2559) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายชาฮิน อัลเพย์ อดีตคอลัมน์นิสต์ของหนังสือพิมพ์ซามาน ถูกตำรวจควบคุมตัวที่บ้านพักในนครอิสตันบูล เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (27 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยนายอัลเพย์ระบุว่า ไม่ได้ก่ออาชญากรรมใดๆ และไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกจับกุม
นายอัลเพย์เป็นหนึ่งในอดีตผู้บริหารและผู้สื่อข่าวอาวุโส 47 คน ของหนังสือพิมพ์ซามานที่ทางการตุรกีออกหมายจับ เนื่องจากต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับ นายเฟตูลาห์ กูเลน นักการศาสนา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามทำรัฐประหาร 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลตุรกีออกหมายจับผู้สื่อข่าว 42 คน ในจำนวนนี้ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนแล้ว 16 คน
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีคำสั่งปิดสำนักข่าว 3 แห่ง สถานีโทรทัศน์ 16 แห่ง สถานีวิทยุ 23 แห่ง หนังสือพิมพ์ 45 ฉบับ นิตยสาร 15 ฉบับ และสำนักพิมพ์ 29 แห่ง ในจำนวนนี้มีสื่อหลายสำนักที่มีความเกี่ยวข้องฝ่ายค้านและฝ่ายที่สนับสนุนชาวเคิร์ด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานต่ออีกว่า สภาสูงสุดของกองทัพเตรียมจัดการประชุมขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือถึงการปรับโครงสร้างกองทัพและสายการบังคับบัญชาใหม่ และอาจจะหารือถึงอนาคตของนายทหารที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร เช่น บังคับให้เกษียณอายุก่อนกำหนดนับตั้งแต่มีความพยายามทำรัฐประหาร ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 290 คน
ที่ผ่านมาทางการจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารแล้วราว 1.5 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็นทหาร 1 หมื่นคน คิดเป็นร้อยละ 1.5 ของกำลังพลทั้งหมด โดยกองทัพมีคำสั่งปลดอย่างเป็นทางการไปแล้ว 1,700 คน
ด้าน นายบินาลี ยิลดิริม นายกรัฐมนตรีของตุรกี ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ของอังกฤษ ว่า รัฐบาลจะฟังเสียงประชาชนก่อนตัดสินใจว่าจะนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้หรือไม่ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่านายกูเลนอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร และสหรัฐฯ ไม่น่าจะทราบเรื่องนี้มาก่อน เพราะสหรัฐฯ เป็นเพื่อนและเป็นพันธมิตรด้านยุทธศาสตร์ของตุรกีมายาวนาน จึงไม่น่าจะทำร้ายตุรกี
ทั้งนี้ รัฐบาลตุรกีได้จัดทำสุสานสำหรับฝังร่างผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร โดยตั้งชื่อว่า "สุสานของผู้ทรยศ" ตั้งอยู่ทางตะวันออกของนครอิสตันบูล และอยู่ติดกับศูนย์ดูแลสุนัขจรจัด