น.ส.พัฒน์นรี ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีพบข้อความสนทนาทางเฟซบุ๊กพูดคุยเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง ก่อนจะเข้ามอบตัวและได้รับการประกันตัวที่ศาลทหารเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2559 ต่อมาพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นประธาน
หลังจากนั้นตำรวจได้ส่งคดีให้อัยการศาลทหารพิจารณา และอัยการศาลทหารได้มีคำสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2559 โดยนัด น.ส.พัฒน์นรีมารายงานตัววันนี้ (1 ส.ค.)
น.ส.พัฒน์นรีระบุว่าจะไปศาลทหารตามหมายเรียกและได้เตรียมหลักทรัพย์ 5 แสนบาทเพื่อขอประกันตัวในชั้นศาล เธอยืนยันในความบริสุทธิ์ พร้อมกับชี้แจงว่า บทสนทนาที่ถูกนำไปเป็นหลักฐานที่อ้างว่าตัวเองต้องการล้มสถาบันนั้นไม่เป็นความจริง และก่อนหน้านั้นผลการสอบสวน พนักงานสอบสวนก็มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแล้ว
"มันโหดร้ายนะ ไม่มีใครมีความสุขที่ต้องอยู่ในเรือนจำ ขนาดคนทำความผิดยังไม่อยากจะเข้า แล้วเราไม่ผิดแต่ต้องเข้าไป ไม่อยากนึกถึงเลย แต่ถ้ามันถึงเวลาจริงๆ เราก็แค่ก้มหน้ารับชะตากรรมไป แต่เรามีภาระ มีคนที่ต้องดูแล มีแม่แก่ๆ และลูกสาวที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่น ส่วนนิว (นายสิรวิชญ์) ก็ยังมีปัญหา ทุกคนอยู่ได้เพราะเรา" น.ส.พัฒน์นรีให้สัมภาษณ์ทีมข่าวไทยพีบีเอส
คดีนี้มี ร.ท.ชวิน ชยาวิวัฒนาวงศ์ เป็นผู้กล่าวหา นายบุรินทร์ อินติน และ น.ส.พัฒน์นรี ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หรือ มาตรา 112 แต่ในการสอบสวนของตำรวจหรือชั้นพนักงานสอบสวน ตำรวจ มีความเห็นสั่งฟ้องเพียง นายบุรินทร์ และสั่งไม่ฟ้องนางสาวพัฒน์นรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงนามเห็นชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรายงานตัวแล้ว ทนายความได้ยื่นขอประกันตัวเป็นเงินสดจำนวน 5 แสนบาท ศาลทหารอนุญาตให้ประกันตัว น.ส.พัฒน์นรี โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต ห้ามยุยงปลุกปั่นหรือเคลื่อนไหวทางการเมือง