ก่อนหน้านี้นักกีฬาที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกจะได้รับเงินอัดฉีด 10 ล้านบาท แต่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเตรียมเพิ่มเงินอัดฉีดเป็น 12 ล้านบาท ให้นักกีฬาที่คว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกครั้งนี้
ส่วนเหรียญเงินได้ 6 ล้านบาท และเหรียญทองแดงจะได้ 4 ล้านบาทเหมือนเดิม
แต่มีข้อแม้ว่านักกีฬาที่ได้เหรียญทองจะต้องแบ่งการรับเงินอัดฉีดเป็น 2 งวด งวดแรกเป็นเงิน 6 ล้านบาท และแบ่งจ่ายรายเดือนรวม 6 ล้านบาท หากนักกีฬาจะขอรับเงินอัดฉีดเป็นเงินก้อนเดียวในครั้งเดียวจะได้รับเงินอัดฉีดที่ 10 ล้านบาท
โอลิมปิกครั้งที่แล้วไทยได้ 2 เหรียญเงินจาก แก้ว พงษ์ประยูร และ พิมศิริ ศิริแก้ว ส่วนเหรียญทองแดงได้จาก ชนาธิป ซ้อนขำ และ ศิริภุช กลุน้อย นักกีฬายกน้ำหนักที่ส้มหล่นได้เหรียญภายหลังจากนักกีฬายูเครนถูกริบเหรียญเพราะตรวจพบสารต้องห้าม
ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเมื่อ 4 ปีที่แล้วมีการจัดอันดับ 10 ประเทศที่ให้เงินอัดฉีดนักกีฬาเหรียญทองสูงสุด ซึ่งประเทศไทยติดอันดับ 6 โดยอันดับ 1-5 คือ จอร์เจีย 1,200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ, สิงคโปร์ 708,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ, อาร์เซอร์ไบจัน 510,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ, ฟิลิปปินส์ 340,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ, มาเลเซีย 307,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ