วันนี้ (4 ก.ย. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพพื้นที่ เห็นได้ว่ามีความอุดมสมบูรณ์และจัดอยู่ในแหล่งต้นน้ำสำคัญของ จ.ภูเก็ต โดยผู้ออกโฉนดได้นำ สค.1 จากที่อื่น มาสวมเป็นโฉนดจำนวน 8 แปลง เป็นการออกทับแหล่งต้นน้ำลำธาร ภูเขา และ ที่ดิน สปก.
เอกสารเผยแพร่ของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ลงวันที่ 28 ธ.ค. 2553 ระบุว่า ก่อนออกโฉนด นายบ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ ได้ยื่นขอออกโฉนด 8 แปลงตาม สค.1 เลขที่ 108 เมื่อรังวัดที่ดิน ปรากฎว่าตำแหน่งที่ดินไม่ตรงตามแผนที่ของช่างรางวัด จึงตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์
ต่อมาปี 2544 นายธวัชชัย อนุกูล ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กลับลงนามในฐานะรักษาราชการแทนเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ทั้งที่ไม่มีอำนาจ
ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว นายทุนที่เป็นคนท้องถิ่นได้กว้านซื้อที่ดิน ทั้งบนภูเขาและพื้นราบไปจากชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่ถูกแบ่งให้ทำกินและที่ดิน สปก. เมื่อขายแล้วส่วนใหญ่ ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น
พื้นที่ส่วนใหญ่ใน ต.รัษฎา เป็นเหมืองดีบุกที่หมดสัมปทาน สภาพพื้นที่จึงมีหนองน้ำที่เป็นหลุมเหมืองเก่า ผู้ครอบครองตอนนี้เป็นนักธุรกิจที่ลงทุนด้านการขนส่งและอสังหาริมทรัพย์
นายพิสุทธิ์ ตันมณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า การพัฒนาในพื้นที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ที่ดินใน ต.รัษฎา เป็นที่ต้องการของนายทุน เพราะแปรเปลี่ยนเป็นย่านธุรกิจและบ้านจัดสรร
อย่างไรก็ดี การออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบในครั้งนี้ ทำให้ ปปช.มีมติลงโทษทางวินัยร้ายแรงและให้ดำเนินคดีแก่นายธวัชชัย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ฐานทุจริตต่อหน้าที่และมีความผิดอาญา ฐาน ปลอมแปลงเอกสารของราชการ
ส่วนคนที่ถือครอง คือ นายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 เรื่องการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ปปช.ยังส่งเรื่องให้อธิบดีกรมที่ดิน ยกเลิกการพิมพ์โฉนดที่ดินและแจ้งหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบเอาผิดคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง