วันนี้ (7 ก.ย.2559) พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแล้ว จำเป็นต้องหาพยานหลักฐานในที่เกิเหตุเพิ่มเติม จึงประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วยห้องควบคุมตัวของดีเอสไออีกคร้้ง ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดได้ตรวจสอบไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
พล.ต.ต.เจริญกล่าวว่า การเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำ ถือว่าเป็นเรื่องปกติของการค้นหาพยานหลักฐาน ซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา และคาดว่าตำรวจจะสรุปสำนวนคดีได้ภายใน 30 วัน แต่หากยังไม่สมบูรณ์ก็ขยายเวลาเพิ่มได้ตามความเหมาะสม
มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุวันนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยครั้งแรก ตรวจสอบในช่วงเช้าวันที่ 30 ส.ค.2559 หลังจากที่นายธวัชชัยเสียชีวิต และตรวจซ้ำอีกครั้งในวันที่ 31 ส.ค. จากนั้นในวันที่ 3 ก.ย. พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมกับขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด
สำหรับการตรวจสอบที่เกิดเหตุในวันนี้ นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัย ได้ติดต่อขอร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอด้วย โดยระบุว่าทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าวันนี้จะมีการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ร่วมตรวจสอบเนื่องจากไม่ได้ประสานมาก่อน
นายชัยณรงค์กล่าวว่ายังรู้สึกติดใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษ เคยประสานมาให้เข้ามาร่วมตรวจสอบ แต่เมื่อมาตรวจสอบกลับแจ้งว่าเซิรฟ์เวอร์บันทึกข้อมูลเสีย ไม่สามารถใช้การได้
"สังคมต้องคิดเอาเองว่า ทำไมเหตุการณ์หลายๆ อย่างในประเทศเป็นแบบนี้ เซิร์ฟเวอร์เสียบ้าง กล้องเป็นดัมมี่บ้าง กล้องเสียบ้าง มันประจวบเหมาะกันอย่างนี้ได้อย่างไร...หน่วยงานซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีมาตรฐานที่สุดในประเทศไทย เกิดเหตุการณ์เซิร์ฟเวอร์เสียขึ้นมาได้อย่างไร ไม่มีการเตรียมพร้อม หรือมีระบบสำรองเลยหรือ เขามีทั้งคนที่มีคุณภาพ มีทั้งเครื่องมือที่มีคุณภาพ ผมเชื่อว่างบประมาณที่นี้มีไม่ใช่น้อย แต่ปรากฏว่าเซิร์ฟเวอร์เครื่องเดียวปล่อยให้เสีย" นายชัยณรงค์กล่าว
ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงยุติธรรม ที่เชิญแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลศิริราช ร่วมกันชันสูตรการเสียชีวิต โดยที่ไม่มีแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนตัวก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงไม่เชิญเข้ามาร่วมในคณะกรรมการด้วย