ฟุตซอลชิงแเชมป์โลกครั้งที่ 8 ที่ประเทศโคลอมเบีย รอบชิงชนะเลิศ รัสเซียพบอาร์เจนตินา รัสเซียออกนำก่อน 1-0 จากเอแดร์ ลิมา ก่อนที่อาร์เจนตินาจะยิงเเซง 2 ประตูรวดจากอลามิโร วาปอรากี เเละลูกจุดโทษของเลอันโดร คุซโซลิโน จบครึ่งแรก อาร์เจนตินาขึ้นนำ 2-1
เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที รัสเซียตามตีเสมอ 2-2 จาก เอแดร์ ลิมา แต่หลังจากนั้นอาร์เจนตินายิงคืน 3 ประตูรวด จากอลัน เเบรนดี 2 ลูก เเละ คอนสเเตนติโน วาปอรากี อีก 1 ลูก ทำให้ อาร์เจนตินานำห่างเป็น 5-2 ก่อนที่ดิมิทรี ลิสคอฟแเละเอแดร์ ลิมา จะทำเเฮททริคให้รัสเซียในเกมนี้ แต่ก็ยังไล่ไม่ทัน
จบเกม อาร์เจนตินาชนะรัสเซีย 5-4 คว้าแชมป์โลกมาครองเป็นสมัยเเรก เเละนับเป็นชาติที่ 3 ที่เป็นแชมป์ได้สำเร็จ ส่วนอีก 2 ประเทศที่เคยได้แชมป์ฟุตซอลโลก คือ บราซิล 5 สมัย เเละสเปน 2 สมัย
ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 อิหร่าน เจ้าของแชมป์เอเชีย 11 สมัย ไล่ตามตีเสมอ โปรตุเกส 2-2 ทั้งที่เป็นฝ่ายตามหลังถึง 0-2 ก่อนที่อิหร่านจะดวลจุดโทษแซงชนะโปรตุเกส 4-3 คว้าอันดับ 3 มาครองเป็นครั้งแรก
ปิดฉากการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ริคาร์ดินโญของโปรตุเกสครองดาวซัลโวในรายการนี้จำนวน 12 ประตู ขณะที่นักเตะยอดเยี่ยมเป็นของ เฟอร์นันโด วิลเฮลม์ จากอาร์เจนตินาเเละเวียดนามคว้ารางวัลเเฟร์เพลย์
สำหรับผลงานของฟุตซอลทีมชาติไทยในรายการนี้ ทำผลงานได้ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะตกรอบโดยแพ้อาเซอร์ไบจาน 8-13