วันนี้ (3 ต.ค.2559) นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า สปส. เตรียมเดินหน้าปฏิรูประบบบำนาญชราภาพเพื่อให้มีความมั่นคง และเป็นประโยชน์ของผู้ประกันตนจะได้มีรายได้เพียงพอไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ ประกอบด้วย 5 แนวทาง ได้แก่ การขยายอายุเกษียณจากปัจจุบันอยู่ที่ 55 ปี เป็น 60 ปี โดยจะขยายหลังปี 2565 ในลักษณะเป็นขั้นบันได ปรับฐานเงินเดือนที่ใช้คำนวณเงินชราภาพ จากที่ปัจจุบันขั้นต่ำอยู่ที่ 1,650 บาท และสูงสุดอยู่ที่ 15,000 บาท ปรับเป็นขั้นต่ำอยู่ที่ 3,600-20,000 บาท ปรับสูตรคำนวณการจ่ายเงินบำนาญชราภาพ จากเดิมใช้คำนวณจากเงินเดือน 5 ปีสุดท้ายที่จ่ายเงินสมทบ มาเป็นคำนวณจากฐานเงินเดือนที่ส่งในช่วง 15 ปี หรือ 20 ปี เพิ่มอัตราเงินสมทบที่จัดเก็บเข้าสู่กองทุนชราภาพจากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 3 ของเงินเดือน เป็นร้อยละ 5 ของเงินเดือน และเร่งพัฒนาการลงทุนให้ได้ผลกำไรมากยิ่งขึ้น
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เชื่อว่า หากใช้ 5 แนวทางนี้ จะทำให้เงินขาเข้าจากการสมทบของผู้ประกันตนและเงินขาออกที่จ่ายให้ผู้สูงอายุในวัยเกษียณสัมพันธ์กัน ซึ่งจะทำให้กองทุนประกันสังคมมีเสถียรภาพมากขึ้น
สปส.เสนอร่างแก้ไขกฎหมายประกันสังคม ต่อคณะกรรมการพิจารณากฎหมายของกระทรวงแรงงานแล้ว เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดรับกับการปฏิรูปทั้ง 5 แนวทาง จากนี้เตรียมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และนักวิชาการ เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันต่อไป