เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.2559) เว็บไซต์ผู้จัดการ ออนไลน์ เผยแพร่บทความ "เมื่อวันที่แม่ไปสบาย และพ่อต้องรับให้ได้" ของนายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เขียนถึงการเสียชีวิตของนางจันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล แม่ของเขาที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
นางจันทน์ทิพย์เสียชีวิตในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือนหลังจากที่นายสนธิถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 20 ปี ในคดีทำเอกสารรายงานการประชุมเท็จ ค้ำประกันกู้เงินธนาคารกรุงไทย จำนวน 1,078 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2559 ทำให้ทั้งสองไม่มีโอกาสได้พบกันในวาระสุดท้ายของชีวิต
นายจิตตนาถ เปิดเผยว่านางจันทน์ทิพย์ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบท่ามกลางสมาชิกครอบครัวที่รายล้อม โดยก่อนที่นางจันทน์ทิพย์จะเสียชีวิตได้สั่งเสียให้นายจิตตนาถอ่านบทพุทธวจน ในการเจริญอานาปานสติ พิจารณาลมหายใจจนกระทั่งสัญญาณชีพหยุด พร้อมกับเปิดบรรยายธรรมต่อเป็นระยะเวลาหนึ่ง
"ผมส่งคุณแม่จากโลกนี้ไปด้วยอาการสงบไม่ฟูมฟาย เพราะท่านเคยสอนเอาไว้ว่าจะเป็นการช่วยให้ผู้วายชนม์ไม่ต้องเป็นห่วง และก็หวังว่าท่านจะมีญาณรับรู้ในสิ่งที่ผมได้ทำตามคำสั่งเสียของท่าน"
หลังจากนั้นนายจิตตนาถเดินทางไปเยี่ยมนายสนธิที่เรือนจำพร้อมกับแจ้งข่าวการเสียชีวิตของนางจันทน์ทิพย์ให้นายสนธิทราบ
"ผมได้เห็นน้ำตาของคุณสนธิล้นเอ่อออกมาอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ เพราะคุณสนธิหวังเอาไว้อย่างมากว่าสักวันจะได้มีโอกาสพบคุณแม่อีกครั้ง"
"ผมได้นำคำพูดของคุณแม่ฝากไปถึงคุณสนธิให้แกฟังว่า 'ป๋าสู้ๆ ป๋าเป็นยอดนักสู้ ให้สู้ๆ นะ' และบอกท่านว่า 'แม่อยากให้ป๋าปฏิบัติธรรม อย่าได้มีความรู้สึกคับแค้นใดๆ ในชะตาชีวิต' "
ขณะที่นายสนธิได้กล่าวกับนายจิตตนาถว่า เมื่อฌาปนกิจนางจันทน์ทิพย์แล้วให้เก็บกระดูกไว้ เพราะไม่ว่าจะชาติไหนเมื่อไหร่ก็จะต้องทำบุญกระดูกของภรรยาให้ได้
นายจิตตนาถบอกว่าเขาได้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างนายสนธิกับนางจันทน์ทิพย์อย่างเต็มกำลังความสามารถแล้ว และเป็นวันที่ไม่มีวันลืมในชีวิต พร้อมขอบคุณญาติมิตร คณะแพทย์และพยาบาลที่ช่วยดูแลและให้กำลังใจนางจันทน์ทิพย์ รวมถึงผู้ที่แสดงความเสียใจต่อครอบครัว
สำหรับกำหนดการพระราชทางเพลิงศพและสวนพระอภิธรรมนางจันทน์ทิพย์ โดยในวันนี้ (4 ต.ค.2559) จะมีพิธีรดน้ำศพที่วัดมกุฏกษัตริยาราม ศาลา 10 เวลา 16.30 น. และจะสวดพระอภิธรรมและมีการเทศน์พุทธวจน ตั้งแต่วันที่ 4-10 ต.ค.2559 และจะมีพิธีพระราชทางเพลิงศพในวันอังคารที่ 11 ต.ค.2559 เวลา 17.00 น. โดยทางเจ้าภาพงดรับพวงหรีด แต่ขอความอนุเคราะห์เป็นของบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์