วันนี้ (5 ต.ค.2559) นายโจชัว หว่อง เดินทางถึงสนามบินในฮ่องกงแล้ว เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยมีกองทัพสื่อมวลชนมารอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก ขณะที่นายหว่อง แสดงหนังสือแจ้งคำสั่งให้คนต่างด้าวเข้าเมืองทราบ
นายหว่อง ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เขาเดินทางไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. และมีตำรวจพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ประมาณ 20 นาย มาควบคุมตัว ยึดหนังสือเดินทาง หลังจากนั้นได้นำตัวไปขังที่สถานีตำรวจนานประมาณ 12 ชั่วโมง โดยไม่ชี้แจงเหตุผลใดๆ เพียงแต่ระบุว่านายหว่องได้ถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว พร้อมทั้งปฏิเสธคำร้องขอที่ต้องการจะติดต่อทนายความในประเทศไทย หรืออย่างน้อยก็ขอให้โทรศัพท์ไปแจ้งครอบครัวทราบว่าเดินทางมาถึงไทยแล้ว
นอกจากนี้ นายหว่อง ระบุอีกว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากเนื่องจากได้รับเชิญจากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงของไทยและเขาเพียงแค่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์ในระหว่างการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งการถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย
ด้าน น.ส.เเอ็กเนส โชว์ รองเลขาธิการพรรคเดโมซิสโต ระบุว่า ชาวฮ่องกงรู้สึกผิดหวังหากรัฐบาลไทยต้องการรักษาความสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนมากกว่าการเคารพสิทธิมนุษยชน และได้เตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่านายหว่องอาจถูกทางการไทยปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ
ขณะที่สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอกย้ำว่าทางการไทยเต็มใจที่จะปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกและสะท้อนให้เห็นว่าทางการจีนใช้อิทธิพลกับไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ด้านนางสาวแชมพา พาเทล ที่ปรึกษานักวิจัยอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า การกักตัวและส่งตัวนายโจชัว หว่อง กลับประเทศ สะท้อนให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่ารัฐบาลทหารของไทย จะทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งการพูดคุยเกี่ยวกับการเมืองในประเทศ