วันนี้ (10 ต.ค.2559) จากความกังวลทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นทันทีที่เปิดตลาด โดยดัชนีเปิดที่ 1,453.10 จุด ลดลง 51.24 จุด หรือ ลดลงร้อยละ3.41 ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียค่อนข้างเงียบ เนื่องจากมี 3 ตลาดได้ปิดทำการ ได้แก่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น, ฮ่องกง, ไต้หวัน
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการ ผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ระบุว่าตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศที่สะท้อนมาตั้งแต่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง แรงขายจากดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวไปถึง 1,500 จุด โดยมองกำไรต่อหุ้นปีนี้เฉลี่ยร้อยละ 10 แต่การปรับตัวลดลงมาเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะเข้าซื้อได้ แนะนำหุ้นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสปรับขึ้น เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มประกันภัย และกลุ่มภาคการบริโภคภายในประเทศ
ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง ระบุว่าหากมองในเรื่องเทคนิค จากสถิติพบว่าหากตลาดปรับตัวลงร้อยละ 3-3.5 ภายใน 1 วัน มีโอกาสร้อยละ 65 ที่ตลาดจะรีบาวด์ขึ้นภายใน 2 วัน แต่หากในวันเดียวดัชนีปรับลงเกินร้อยละ 4 มีโอกาสถึงร้อยละ 85 ที่ตลาดจะฟื้นตัวและตีกลับในแดนบวกได้ในวันถัดไป จึงขอให้นักลงทุนพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ
ล่าสุดดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อเวลา 12.00 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,461.98 จุด ลดลง 42 จุด หรือ ร้อยละ 2.80 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,124 ล้านบาท