วันนี้ (14 ต.ค.2559) หัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการ ทหาร ตำรวจ กงสุลต่างประเทศ และประชาชนทุกหมู่เหล่าใน จ.เชียงใหม่ ร่วมลงนามถวายอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยช่วงบ่ายมีพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
จ.พิจิตร และอีกหลายจังหวัดภาคเหนือ พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมลงนามถวายอาลัย ขณะที่ช่วงบ่ายมีพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
ประเทศเมียนมาตรงข้าม จ.แม่ฮ่องสอน พลโทยอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS) มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่และนักเรียนยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 9 นาที พร้อมกับให้ทุกหน่วยงานลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 15 วัน เพื่อแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อชาติพันธ์ไทใหญ่
จ.ตรัง และ จ.สงขลา พสกนิกรทุกหมู่เหล่าสวมชุดดำ ร่วมลงนามถวายอาลัย ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดตรัง พร้อมกับจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชา ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อให้ร่วมลงนาม ถวายความอาลัยเป็นเวลา 30 วัน
จ.นครราชสีมา พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทยอยเดินทางมาลงนามถวายความอาลัยอย่างเนื่องแน่นตลอดทั้งวัน โดย จ.นครราชสีมา เปิดลงนามถวายความอาลัยทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
จ.อุบลราชธานี วัดมหาวนาราม อ.เมืองอุบลราชธานี เนื่องแน่นไปด้วยพสกนิกรที่มาร่วมลงนาม เช่นเดียวกับสถานที่ราชการอื่น ๆ ที่จัดให้ประชาชนได้ร่วมสรงน้ำพระบรมศพ และน้อมเกล้าถวายอาลัยเช่นกัน
จ.ฉะเชิงเทรา บรรดาข้าราชการ และประชาชนจำนวนมาก ร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ที่พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร พระอารามหลวง
จ.นครนายก จัดโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ และจัดขันน้ำและน้ำสรงพระบรมศพ ให้พสกนิกรร่วมสรงน้ำไปยังขันใหญ่ เพื่อเป็นการถวายอาลัย
จ.ระยอง ประชาชนทยอยออกมาหาซื้อหนังสือพิมพ์เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยซื้อคนละ 2-3 ฉบับ ทำให้หนังสือพิมพ์ทุกหัวขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว
จ.ราชบุรี จัดพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร ขณะที่ศูนย์ราชการต่างลดธงครึ่งเสา ประดับตกแต่งอาคารสถานที่ด้วยผ้าขาวดำ และนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศมาประดิษฐานตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนร่วมถวายอาลัย
จ.สระบุรี สิงห์บุรี และกาญจนบุรี ประชาชนร่วมกันสวมชุดดำไว้อาลัย
จ.สิงห์บุรี จัดโต๊ะหมู่บูชา ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมประดับเครื่องทองน้อย เพื่อให้ประชาชนถวายอาลัยเป็นเวลา 30 วัน