วันนี้ (22 ต.ค. 2559) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทางกระทรวงคมนาคมได้จัดแผนอำนวยความสะดวกประชาชนให้ที่เดินทางมาสักการะ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้เชื่อมต่อกับรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และประสานให้สายการบินต่างๆ จัดรถชัตเติลบัสไว้รับส่ง แต่พบว่าประชาชนที่มาใช้บริการมีจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะการเดินทางทางน้ำ
นายอาคม กล่าวต่ออีกว่า จึงกำชับให้กรมเจ้าท่าจัดเจ้าหน้าที่ให้พอเพียงกับการเดินทางของประชาชน เน้นบริเวณโป๊ะเรือ ที่ห้ามไม่ให้ประชาชนเดินไปอยู่รวมกันในบริเวณดังกล่าว และน้ำหนักบรรทุกของเรือโดยสาร ที่ห้ามไม่ให้ประชาชนลงเรือเกินกว่าน้ำหนักที่บรรทุกผู้โดยสารอย่างปลอดภัยได้ และปรับแผนประจำวันให้สอดคล้องกลับสถานการณ์อย่างปลอดภัย ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“ขณะนี้ ได้ปรับแผนการเดินทางโดยให้เรือด่วนเจ้าพระยาจอดรับส่งผู้โดยสารที่บริเวณท่าเรือพระปิ่นเกล้า ท่าเรือท่าพระจันทร์ใต้ ท่าเรือพรานนก และท่าเรือมหาราช โดยท่าเรือเหล่านี้ มีเรือข้ามฟาก ที่ประชาชนสามารถเดินทางมายังบริเวณพระราชพิธีได้ และอยากให้ประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีที่สนามหลวงในช่วงค่ำ วางแผนการเดินทางให้รัดกุม เนื่องจากประชาชนที่เดินทางมาร่วมร้องเพลงดังกล่าวช่วงบ่ายวันนี้ บางส่วนจะเริ่มทะยอยเดินทางกลับ ทำให้มีผู้ใช้บริการโดยสาธารณะหนาแน่น” รมว.คมนาคม ระบุ
ด้าน พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการบริษัทฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยตัวเลขผู้โดยสารเดินทางวันที่ 21 ต.ค. 2559 ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้งสถานีจตุจักร สถานีเอกมัย และสถานีสายใต้ พบว่า บขส.ได้จัดรถโดยสารรวมรถ บขส. รถร่วม และรถตู้ อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางในเที่ยวไป 7,444 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ 135,199 คน ส่วนเที่ยวกลับ ได้จัดเที่ยวรถเสริมเป็น 7,270 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ 116,254 คน
“ส่วนวันนี้ บขส. คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางงประมาณ 140,000 คน จึงจัดเตรียมรถไว้รองรับประชาชนอย่างเพียงพอ และสามารถปรับเที่ยววิ่งได้ตามความต้องการที่ใช้จริง จึงมั่นได้ว่าจะไม่ปัญหาผู้โดยสารตกค้างที่สถานีขนส่งอย่างแน่นอน” พล.ต.อ.อำนาจ กล่าว