นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า นางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต มีโอกาสชนะมากกว่า เพราะนางคลินตันมีนโยบายไม่หวือหวา และเข้าถึงการเมืองระดับโลกค่อนข้างลึกซึ้งกว่า ส่วนผลกระทบเศรษฐิจไทยไม่น่าห่วง เพราะไทยกระจายตลาดส่งออก ที่ส่วนใหญ่อาเซียนและ พึ่งพิงสหรัฐฯฯเพียง ร้อยละ 10
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มั่นใจว่า นางคลินตันจะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯแน่นอน และมีผลดีต่อธุรกิจการค้าของทั่วโลก เพราะมีนโยบายเปิดเสรีทางการค้า ซึ่งเศรษฐกิจสหรัฐฯจะค่อยๆดีขึ้น ส่งผลดีต่อเงินบาทที่จะอ่อนค่าลง เป็นจังหวะที่ไทยจะส่งออกไปตลาดสหรัฐฯได้เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่อง TPP ยังมั่นใจว่านางคลินตันจะสานต่อนโยบายเดิมที่ประธานาธิบดีโอบามาวางไว้ แต่อาจปรับเปลี่ยนเฉพาะบางเรื่อง
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า ถ้าเลือกได้ขอเลือกนางคลินตันเป็นประธานาธิบดี เพราะนโยบายแน่นอน ชัดเจน น่าเชื่อถือ และเป็นไปได้มากกว่า คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเป็นเหมือนช่วงที่นายโอบามาเป็นประธานาธิบดี และน่าจะค่อยๆฟื้นตัวตลาดหุ้นไทยคงได้รับผลกระทบโดยตรงไม่มาก แต่มีผลทางอ้อมที่กระแสเงินทุนบางส่วนคงกลับมาลงทุนตลาดเกิดใหม่ และไทยกลับสู่โหมดอิงปัจจัยในประเทศเหมือนเดิม
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือสภาผู้ส่งออก กล่าวว่า ส่วนตัวเชียร์นายโดนัลด์ ทรัมพ์ เป็นผู้นำสหรัฐฯฯคนใหม่ เพราะมีนโยบายการค้านำการเมือง โดยยึดหลักการเจรจาการค้าอย่างตรงไปตรงมา และนายทรัมพ์ประกาศชัดเจนว่าไม่เอา TPP หากเป็นจริงไทยก็จะไม่เสียเปรียบประเทศสมาชิก TPP มากในการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯฯ
เช่นเดียวกับ นายมานะผล ภู่สมบุญรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ส่วนตัวเชียร์นายทรัมพ์ด้วย เพราะมาจากภาคธุรกิจ มีแนวคิดแบบภาคธุรกิจ และเข้าใจภาคธุรกิจมากกว่า ต่างจากนางคลินตันที่มองภาพอะไรแบบการเมืองเป็นส่วนใหญ่ และมีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝง